แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การรับสารภาพว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงในคดีจึงต้องรับฟังเป็นยุติถึงการกระทำความผิดของจำเลยได้ตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยไม่อาจที่จะโต้แย้งเป็นอย่างอื่นได้ การที่จำเลยอุทธรณ์ขึ้นมาว่ามิได้มีเจตนากระทำผิด เป็นอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงที่รับฟังเป็นยุติไปแล้ว อันถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 45 และ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓, ๖๓, ๗๗ จัตวา, ๘๕, ๘๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓, ๘๓, ๙๐ ริบของกลาง
ระหว่างพิจารณา บริษัทสยามดัทช์ โมสควิโต้ เน็ตติ้ง จำกัด ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๘๕, ๘๘ ประกอบมาตรา ๖๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๐ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ คนละ ๑ ปี และปรับคนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ คนละ ๖ เดือน และปรับคนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ คงปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ กลับตัวต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระค่าปรับ ให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๓ เพียงผู้เดียวเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแทนจำเลยที่ ๒ ส่วนจำเลยที่ ๑ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลยที่ ๒ เท่านั้น ในการที่จำเลยที่ ๒ ผลิตสินค้าของกลางก็มิได้ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ แต่ผลิตตามที่มีลูกค้าจากต่างประเทศว่าจ้างให้ผลิตโดยลูกค้าเป็นผู้กำหนดรูปแบบสินค้าพร้อมส่งตัวอย่างมาให้เป็นแบบด้วย ทั้งจำเลยทั้งสามไม่ทราบมาก่อนว่าโจทก์ร่วมได้ขอรับสิทธิบัตรและได้รับสิทธิบัตรแบบผลิตภัณฑ์สำหรับสินค้าตามฟ้อง จำเลยทั้งสามมิได้มีเจตนากระทำผิดคดีนี้นั้น เห็นว่า จำเลยทั้งสามได้ให้การรับสารภาพว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดตามฟ้องโจทก์แล้ว ดังนั้น ข้อเท็จจริงในคดีจึงต้องรับฟังเป็นยุติถึงการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามได้ตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสามไม่อาจที่จะโต้แย้งเป็นอย่างอื่นได้ การที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ขึ้นมาดังกล่าวนั้น เป็นอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงที่รับฟังเป็นยุติไปแล้วอันถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสามมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๔๕ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๕ วรรคหนึ่ง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งสามคนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว คงปรับคนละ ๕๐,๐๐๐ บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้บังคับจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ และบังคับจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.