คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่กองทัพอากาศจำเลยได้ทำการจัดซื้ออาวุธปืนพกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามความต้องการของข้าราชการในสังกัด โดยใช้เงินที่ได้มาจากข้าราชการที่ต้องการจะมีอาวุธปืนดังกล่าวไว้ใช้ ซึ่งจำเลยจะหักเงินเดือนของข้าราชการผู้นั้นใช้หนี้จนครบ และมีข้อกำหนดว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปี ข้าราชการผู้ซื้ออาวุธปืนดังกล่าวจะได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายให้แก่ข้าราชการของจำเลยเป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับส่วนราชการ ถือไม่ได้ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ที่ใช้ในราชการอันอยู่ในข่ายที่จะได้รับการยกเว้นอากรตาม พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ภาค 4 ประเภท 13 จำเลยจึงต้องรับผิดเสียภาษีอากร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลซึ่งเป็นภาษีอากรค้างชำระจำนวน 33,439,395 บาท แก่โจทก์ และให้จำเลยชำระเงินเพิ่มอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนจากต้นเงิน 4,670,564 บาท 5,161,272 บาท และ 2,237,284 บาท ตามลำดับ เป็นรายเดือน นับแต่วันที่ 1 กันยายน 2538 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าภาษี จำนวน 33,439,395 บาท และเงินเพิ่มอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนจากต้นเงิน 4,670,564 บาท 5,161,272 บาท และ 2,237,284 บาท ตามลำดับ เป็นรายเดือน นับแต่วันที่ 1 กันยายน 2538 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์จำเลยว่า อาวุธปืนพกที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้รับยกเว้นอากรหรือไม่ เห็นว่า ตาม พ.ร.ก.พิกัดอัตราภาษีศุลกากร พ.ศ. 2530 ภาค 4 บัญญัติให้ของที่ได้รับยกเว้นอากร ประเภท 13 ได้แก่ ยุทธภัณฑ์ที่ใช้ในราชการ แต่การที่จำเลยเป็นผู้จัดซื้ออาวุธปืนพกที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามความต้องการของข้าราชการในสังกัด โดยใช้เงินที่ได้มาจากข้าราชการที่ประสงค์จะมีอาวุธปืนพกประจำกายไว้ใช้โดยให้ต้นสังกัดของข้าราชการดังกล่าวหักเงินเดือนของข้าราชการผู้นั้นใช้หนี้จนครบจำนวน และมีข้อแม้ว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปีแล้ว ข้าราชการผู้ซื้ออาวุธปืนพกดังกล่าวก็จะได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ การนำเข้าอาวุธปืนพกของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายให้แก่ข้าราชการของจำเลยเป็นการส่วนตัวไม่เกี่ยวกับส่วนราชการ ถือไม่ได้ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ที่ใช้ในราชการอันอยู่ในข่ายที่จะได้รับการยกเว้นอากรตามความในภาค 4 ประเภทที่ 13 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราภาษีศุลกากร พ.ศ. 2530 จำเลยต้องรับผิดเสียภาษีอากร
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share