คำสั่งคำร้องที่ 3456/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาของจำเลยที่ 2เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามไม่ให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 ที่แก้ไขใหม่ ไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ในข้อ 2(1)เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าพฤติการณ์ต่าง ๆ ตามที่ศาลชั้นต้น ฟังมาซึ่งยุติแล้วนั้น จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับ จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 หรือไม่ และเป็นข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดี โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 111 แผ่นที่ 3)
คดีนี้เดิมศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1207/2532 ของศาลชั้นต้น แต่คดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยคู่ความมิได้อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 74,250 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2530 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และให้ยกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 1190/2532
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ร่วมกับ จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 107)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 108)

คำสั่ง
คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 2 นำสืบหักล้างพยานโจทก์ ได้ว่า จำเลยที่ 1 ฉวยโอกาสขณะที่จำเลยที่ 2 ไม่อยู่เอารถของจำเลยที่ 2 ออกไปเก็บเงินค่าโดยสารเอาเองจึงไม่เป็นในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 นั้น เป็นฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share