คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายความรับมอบฉันทะจากตัวควาให้ไปรับเงินที่ศาลเมื่อทนายได้รับเงินมาแล้ว ย่อมเป็นหน้าที่ของทนายจะต้องมอบเงินที่ได้มาให้แก่ตัวความ ไม่มีอำนาจหักค่าทนายไว้โดยพลการ ในเมื่อปรากฎว่าเงินค่าจ้างว่าความนี้ ยังโต้เถียงกันอยู่ว่าชำระให้แล้วหรือยังทนายไม่มีสิทธิจะหักกลบลบหนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จ้างจำเลยที่ ๑-๒ ซึ่งเป็นพ่อลูกันเป็นทนายว่าต่างร่วมกันให้โจทก์ เมื่อคดีถึงที่สุด โจทก์มีส่วนได้แบ่ง ๘๙๓ บาท ๗๓ สตางค์ จำเลยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในใบมอบฉันทะ แล้วจำเลยไปรับเงินมาจากศาล แล้วไม่จ่ายให้โจทก์ จึงขอให้จำเลยร่วมกันใช้เงิน ๘๙๓ บาท ๗๓ สตางค์
จำเลยให้การว่า เงินส่วนได้ของโจทก์ เมื่อหักค่าอากรแสตมป์ กับค่าทนายความให้จำเลย ๒๐๐ บาท โจทก์คงได้รับ ๖๖๙ บาท ๒๓ สตางค์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้เงิน ๘๘๙ ๒๓ สตางค์แก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยรับมอบฉันทะจากโจทก์ไปให้รับเงินที่ศาล จำเลยได้รับเงินมาแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องมอบเงินที่ได้รับมาให้แก่โจทก์จำเลยไม่มีอำนาจหักค่าทนาย ๒๐๐ บาท ไว้โดยพลการโดยที่เงินค่าจ้างว่าความ ๒๐๐ บาทนี้ ยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่โดยโจทก์ว่าได้ชำระเงินให้แล้ว จำเลยไม่มีสิทธิจะหักกลบลบหนี้ได้
จึงพิพากษายืน

Share