แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขนน้ำสุราจากตำบลรองเมืองจังหวัดพระนคร มายังตำบลบางปลาสร้อย จังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต ฟ้องของโจทก์แสดงว่าจำเลยขนไปต่างตำบลซึ่งอยู่ต่างจังหวัดกันด้วย เป็นการขนไปต่างตำบลตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 11 ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรานี้
ขนสุราปริมาณเกิน 10 ลิตร โดยไม่ได้รับอนุญาต น้ำสุรานั้นทั้งหมดรวมกันเกิดเป็นความผิด จึงริบน้ำสุราได้ทั้งหมด.
(อ้างฎีกา 178/2486)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ได้ความว่าจำเลยขนน้ำสุราต่าง ๆ รวม ๓๐ ขวด น้ำสุรา ๑๘ ลิตร ๗๕๐ เซ็นติลิตร จากตำบลรองเมือง อำเภอประทุมวัน จังหวัดพระนคร มายังตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมิได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย ๕๐ บาท ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. ๑๒๔๘ มาตรา ๑๑,๑๒ กฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๕๙ คืนสุราของกลางที่ต่ำกว่า ๑๐ ลิตรให้จำเลยไป คงริบฉะเพาะน้ำสุราของกลางที่เกินกว่านี้
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ปรากฎว่าจำเลยขนย้ายออกนอกเขตต์นายอากรหรือโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่า เขตต์ตำบลตามกฎหมายมีอยู่อย่างใด แม้จำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๗/๒๔๙๐ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า รูปคดีนี้ต่างกับคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๗/๒๔๙๐ เพราะคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจขนน้ำสุราจากตำบลรองเมืองจังหวัดพระนคร มายังตำบลบางปลาสร้อยจังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต ฟ้องของโจทก์แสดงว่าจำเลยขนไปต่างตำบลซึ่งอยู่ต่างจังหวัดกันด้วย เมื่อได้พิเคราะห์ถึงกฎหมายว่าด้วยภาษีชั้นใน ประกอบกับ พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวงทะบวงกรมและพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการกรมสรรพสามิตต์แล้วเห็นได้ว่าการขนน้ำสุราดังบรรยายในฟ้อง เป็นการขนต่างตำบลตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. ๑๒๔๘ มาตรา ๑๑ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรานี้
ส่วนที่ว่าควรริบสุราทั้งหมดหรือฉะเพาะส่วนที่เกินกว่า ๑๐ ลิตรนั้น เห็นว่า คดีนี้ จำเลยฝ่าฝืนข้อห้ามของ ก.ม.ที่ห้ามมิให้ขนน้ำสุรามีปริมาณเกิน ๑๐ ลิตรโดยมิได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยขนน้ำสุราเกินปริมาณดังกล่าวนั้น น้ำสุราทั้งหมดรวมกันเกิดเป็นความผิด จึงริบน้ำสุราได้ทั้งหมด
พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และริบสุราของกลางทั้งหมด.