คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตาม ม. 123 และ 304. จำเลยไห้การปติเสธ เช่นนี้ย่อมต้องหมายถึงว่าจำเลยปติเสธคำกล่าวไนฟ้องซึ่งสแดงอำนาดฟ้องไนเรื่องไม่ไห้ร้องทุขด้วย.

ย่อยาว

คดีนี้โจทฟ้องจอไห้ลงโทสจำเลย ถานสแดงตนเปนคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและฉ้อโกงตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๑๒๓,๓๐๔. คดีที่เปนความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายได้ร้องทุกแล้ว
จำเลยไห้การปติเสธข้อหาต่อสู้ว่าการที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนกล่าวโทสก็เพราะโกรธเคืองว่าจำเลยนำจับไนเรื่องสุราเถื่อน
สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์ พิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้องโจท
โจทดีกาว่า จำเลยไม่ได้คัดค้านอำนาดฟ้องไนข้อที่ว่า ผู้เสียหายได้ร้องเรียนว่ากล่าวไห้เจ้าพนักงานว่ากล่าวไนข้อหาถานฉ้อโกง และยิ่งกว่านั้นจำเลยยังไห้การรับว่า ผู้เสียหายได้ร้องเรียนแล้ว โจทจึงไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบไนข้อนี้ สาลดีกาได้พิเคราะห์คำไห้การจำเลยเห็นว่า จำเลยปติเสธฟ้องของโจทตลอดข้อหา ต้องหมายความว่าจำเลยปติเสธ คำกล่าวไนฟ้องซึ่งสแดงอำนาดฟ้องของโจทด้วย แม้จำเลยจะได้กล่าวว่า การที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนกล่าวโทสนั้นก็เพราะมิสาเหตุกันนั้นก็หาไช่เปนคำรับไนเรื่องอำนาดฟ้องของโจทไม่พิพากสายืน.ๆ

Share