แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของป. ย่อมมีสิทธิเข้าจัดการที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของป. เพื่อนำมาแบ่งแก่ทายาทและขอจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกของป. ในโฉนดที่ดินมรดกได้ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา82โดยต้องนำโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินด้วยเมื่อโฉนดที่ดินอยู่ในความครอบครองของจำเลยโจทก์มีสิทธิเรียกให้จำเลยส่งมอบโฉนดได้ที่จำเลยอ้างว่าจำเลยยังจัดการมรดกของอ. ในที่ดินดังกล่าวไม่เสร็จก็ดีไม่ใช่เหตุที่จะลบล้างสิทธิของโจทก์ให้จำเลยไม่ต้องส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์แต่เมื่อโจทก์ดำเนินการจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วต้องมอบโฉนดที่ดินคืนแก่จำเลยตามเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางประโกยกฤษณะเศรณี ที่ดินโฉนดเลขที่ 2647 มีผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม 5 คนคือ จำเลย นายปรีดา ศิริวัฒนา นางสุนทรี หังสสูต และนางประโกยกฤษณะเศรณี เจ้ามรดก โดยจำเลยเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินดังกล่าว โจทก์มีความประสงค์จะแบ่งปันที่ดินซึ่งเป็นมรดกของนางประโกยให้แก่ทายาทของนางประโกย จึงแจ้งให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นางประโกยเป็นบุตรของนายโอภาสหรือแตงซุ้ย ศิริวัฒนา และเป็นน้องสาวของจำเลย นายโอภาสถึงแก่ความตายเมื่อปี 2505 จำเลยและนางจำเริญ วิโรจน์ไตรรัตน์เป็นผู้จัดการมรดกของนายโอภาส ต่อมานางจำเริญถึงแก่ความตายการจัดการมรดกของนายโอภาสยังไม่เสร็จสิ้น จำเลยในฐานะพี่คนโตและเป็นผู้จัดการมรดกเป็นผู้เก็บโฉนดที่ดินและดำเนินการแบ่งแยกที่ดินตามข้อตกลงต่อนางประโกยถึงแก่ความตาย นางประโกยยืมโฉนดที่ดินเลขที่ 2615 จากจำเลยแล้วไม่ส่งคืน จำเลยทวงถามทายาทของนางประโกยและโจทก์ให้ส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวคืนเพื่อนำไปดำเนินการแบ่งแยกพร้อมกับที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2647แต่ทายาทของนางประโกยและโจทก์เพิกเฉย เมื่อยังไม่ส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวคืนแก่จำเลยเพื่อนำไปแบ่งแยกตามข้อตกลงที่นางประโกยทำไว้กับจำเลย โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 แก่โจทก์เพื่อจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางประโกย กฤษณะเศรณี เจ้ามรดก เสร็จแล้วให้โจทก์คืนโฉนดดังกล่าวให้แก่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยต้องส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647ให้แก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่า จำเลยและนางประโกยกับพวกอีก 2 คนต่างก็เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ 2647 เมื่อนางประโกยถึงแก่ความตาย โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของนางประโกยย่อมมีสิทธิเข้าจัดการที่ดินโฉนดเลขที่ 2647 เฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของนางประโกยเพื่อนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของนางประโกยโจทก์จึงมีสิทธิขอจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกของนางประโกยในโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 ซึ่งเป็นหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 82 และเนื่องจากบทกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้โจทก์ต้องนำโฉนดที่ดินเลขที่ 2667 มาแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจึงจะดำเนินการจดทะเบียนให้ตามคำขอได้ โจทก์ย่อมมีความจำเป็นต้องใช้โฉนดที่ดินไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 อยู่ในความครอบครองของจำเลยเช่นนี้โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 ให้แก่โจทก์เพื่อนำไปดำเนินการดังกล่าวได้ ที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ไม่ยอมมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2615 ตำบลบางปรอก (บางโพเหนือฝั่งใต้)อำเภอเมืองปทุมธานี (เชียงราก) จังหวัดปทุมธานี คืนแก่จำเลยเพื่อนำไปแบ่งตามข้อตกลงที่นางประโกยทำไว้กับจำเลยก็ดีจำเลยยังจัดการมรดกของนายโอภาสไม่เสร็จก็ดี ไม่ใช่เหตุที่จะมาลบล้างสิทธิของโจทก์ให้จำเลยไม่ต้องส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 แก่โจทก์ จำเลยจึงต้องส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647ให้แก่โจทก์ แต่เมื่อโจทก์ดำเนินการจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วก็ให้มอบโฉนดที่ดินเลขที่ 2647 คืนแก่จำเลยตามเดิมที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน