แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อักษรและเลขหมายที่พานท้ายปืนอันเป็นเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืนของเจ้าพนักงานนั้น ไม่ใช่รอยตราของเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251 แต่เป็นเอกสารตาม มาตร า1(7)
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าอักษรเลขหมายที่พานท้ายปืนของจำเลยเป็นของทำปลอมขึ้นเมื่อเจ้าพนักงานมาขอค้นจำเลยได้ นำปืนดังกล่าวออกแสดงให้เจ้าพนักงานดูพร้อมในอนุญาตของจำเลยดังนี้ ต้องถือว่า จำเลยได้ใช้หรืออ้างเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีปืนโดยไม่รับอนุญาตและจำเลย สมคบกันพวกทำปลอมรอยตราเครื่องหมายทะเบียนปืนที่พานท้ายปืน แล้วนำปืนดังกล่าวแสดงต่อนายยกกับนายสิบตำรวจโท ถวิล เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อแสดงว่า เป็นปืนที่จะได้รับอนุญาตแล้วขอให้ลงโทษ ฯลฯ
จำเลยให้การรับว่า มีปืนไม่รับอนุญาตจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ปลอมเครื่องหมายทะเบียนปืน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า อักษรและเลขที่พานท้ายปืนไม่ใช่รอยตรา แต่เป็นเอกสารตาม มาตรา ๑(๗) และฟังว่า เป็นการทำปลอม แต่โจทก์ไม่มีพยานว่าจำเลยปลอมและไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ใช้หรืออ้างกับใครก่อนก่อนถูกจับ จึงพิพากษาปรับจำเลย ๑๕๐ บาท (ลดแล้ว) ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗๒ ริบปืน ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ตามมาตรา ๒๕๑, ๒๕๒, ๒๖๔, ๒๖๘
ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยว่า ไม่ใช่รอยตราและเป็นเอกสารปลอมโดยจำเลยไม่ได้ทำปลอม แต่เห็นว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนทำปลอมขึ้น เมื่อนายสิบตำรวจโทถวิลมาขอค้นบ้านจำเลย ๆ ได้นำปืนของกลางออกแสดงพร้อมใบอนุญาต ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้นำอักษรและเลขหมายปลอมออกใช้แล้ว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ จึงพิพากษาแก้ให้จำคุก ๖ เดือน ตาม มาตรา ๒๖๘, ๒๖๙
โจทก์ฎีกาว่า เป็นรอยตราของเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๑, ๒๕๒ ด้วย จำเลยฎีกาว่าไม่ผิดมาตรา ๒๖๘
ศาลฎีกาเห็นด้วย กับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน