คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารซึ่งทำเป็นบันทึกการรับมอบหมายทรัพย์สินซึ่งเป็นกิจการที่กระทำต่อเนื่องมาจากสัญญาซึ่งขายโอนหุ้นกันนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่า จะต้องทำเป็นหนังสือคู่กรณีจึงนำพะยานบุคคลเข้าสืบได้ ไม่ต้องห้าม ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 94 (ข)

ย่อยาว

คดีนี้คงมีประเด็นที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเพียงว่า เงินทุน ๕๒๑๐ บาทที่จำเลยต่อสู้ว่า มิได้รวมอยู่ในจำนวนเงิน ๒๔๒๖๙.๑๓ บาท อันเป็นจำนวนซึ่งจำเลยเป็นเจ้าหนี้โจทก์แต่ในเอกสารหมาย จ.๑ ที่โจทก์อ้างมาเป็นพะยานหลักฐานปรากฎว่า จำเลยได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับมอบทรัพย์สินจากโจทก์ว่าเงินทุนจำนวน ๕๒๑๐ บาท รวมอยู่ในจำนวนเงินนี้ด้วย โจทก์จึงฎีกาคัดค้านว่า จำเลยไม่มีสิทธิ์ที่จะสืบแก้ไขเอกสารหมาย จ.๑ ได้ อ้าง ป.ม.วิ.แพ่ง ม. ๙๔ (ข)
ศาลฎีกาเห็นว่า เอกสารหมาย จ.๑ นี้เป็นคำบันทึกการรับมอบหมายทรัพย์สินพร้อมบัญชี และเอกสารต่าง ๆ เป็นกิจการที่กระทำต่อนเื่องมาจากการที่โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายโอนหุ้นกันตามเอกสาร ล.๓๑ ซึ่งว่าโดยแท้จริงแล้วเอกสาร ล.๓๑ นี้เป็นสัญญาซื้อขาย แต่เอกสารหมายเลข จ. ๑ เป็นแต่เพียงบันทึกการรับมอบ ซึ่งในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่า ต้องทำเป็นหนังสือคู่กรณีจึงนำพะยานบุคคลสืบได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๙๔ (ข) พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share