แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอนไปนั้น เพียงทำสัญญากันเองไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ใช้ได้ หาเป็นโมฆะไม่
ซื้อเรือนเพื่อรื้อถอนไปแล้วให้เจ้าของเดิมเช่าอยู่เป็นเวลาจำกัดไม่ถึง 1 ปี ก่อนรื้อถอนเรือนไปนั้น ไม่ทำให้สัญญาซื้อขายกลายสภาพเป็นอย่างอื่น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องเพิ่มเติมขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากเรือนเช่าของโจทก์กับเรียกค่าเช่า ๒๒๕ บาท โดยกล่าวว่ามารดาโจทก์ได้ซื้อเรือนดังกล่าวจากจำเลย แล้วให้จำเลยเช่าอยู่ต่อมามารดาโจทก์ตายโจทก์รับมฤดก
จำเลยให้การว่าเรือนเป็นของจำเลย ๆ ไม่ได้เช่าและไม่ได้ขาย
คู่ความรับกันว่าเรือนพิพาทเดิมเป็นของจำเลยได้ขายให้มารดาโจทก์ โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง ตามสัญญาที่โจทก์ส่งศาลโจทก์รับมฤดกจากมารดา ค่าเช่า ๒๒๕ บาทที่โจทก์ฟ้องเรียก จำเลยยังไม่ได้ชำระ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากเรือนพิพาทกับให้จำเลยใช้ค่าเช่า ๒๒๕ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาซื้อขายที่คู่ความรับกันนั้นเป็นการซื้อขายเรือนพิพาทเพื่อให้รื้อถอนไป หาจำเป็นต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และตกเป็นโมฆะดังฎีกาของจำเลยไม่ การที่มารดาโจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเช่าเป็นเวลาจำกัดไม่ถึง ๑ ปี ก่อนรื้อถอนไปไม่ทำให้สัญญาซื้อขายกลายสภาพเป็นอย่างอื่น
จึงพิพากษายืน