แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินที่กล่าวหาว่าจำเลยยักยอกเป็นคดีใหม่นี้ จำเลยรับไว้ต่างวันเวลาและต่างรายการกับเงินที่โจทก์เลยฟ้องจำเลย ในคดีก่อน ทั้งจำเลยทุจริตยักยอกเงินแต่ละรายนั้นเป็นคราว ๆ ไป เป็นการต่างกรรมต่างวาระกัน จึงไม่เป็นฟ้อง ซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทุจริตยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ปกครองรักษาของจำเลยไปรวม ๑๔ คราว รายละเอียดปรากฎตาม ฟ้องเป็นเงิน ๑๐๗๐๔๖ บาท ๘๖ สตางค์ ขอให้ลงโทษ
จำเลยรับสารภาพ คงต่อสู้แต่ว่าเป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ ๔๘๙/๒๔๙๔
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องซ้ำ และพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๓๑ ให้รวมกะทงลง โทษ จำคุก ๔ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า เรื่องนี้ตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันมา คือเงินที่กล่าวหาว่าจำเลยยักยอกในคดีนี้ จำเลย รับไว้ต่างวันเวลาและต่างรายการกับเงินที่โจทก์ฟ้องในคดีแดงที่ ๔๘๙/๒๔๙๔ ทั้งจำเลยทุจริตยักยอกเงินแต่ละรายนั้น เป็นคราว ๆ ไป เป็นการต่างกรรมต่างวาระกัน จึงไม่ใช่ฟ้องซ้ำ.
พิพากษายืน.