แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อยางพารารับเบอร์กำหนดให้ผู้ขายส่งภายในกำหนด ถึงกำหนดแล้วผู้ซื้อไม่รับ ดังนี้เป็นกรณีเรื่องผู้ซื้อผิดนัด ไม่ใช่เรื่องสัญญาเดิมถูกแก้ไขและการขอให้ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขายก็ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องนายฉุนจุยจำเลยก่อนแล้วจึงเรียกนายฉุนกังเข้ามาเป็นจำเลยร่วมโดยอ้างว่านายฉุนกังจำเลยเป็นบุตรและผู้จัดการร้านทำการงานในทางการค้าแทนตัวนายฉุนจุยจำเลย
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงทำการซื้อยางพารารับเบอร์กันเป็นจำนวน 6,000 ก.ก. ราคา ก.ก.ละ 8.65 บาท กำหนดให้จำเลยส่งยางภายใน 10 วัน จำเลยรับมัดจำไป 10,000 บาท ครบกำหนดจำเลยไม่ส่งยางให้ จึงฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินมัดจำและใช้ค่าเสียหายพร้อมทั้งดอกเบี้ย
นายฉุนจุยต่อสู้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดสัญญาโดยปฏิเสธไม่รับซื้อและขอผัดเวลาเพราะระหว่างราคาตกต่ำมาก โจทก์ไม่เคยบอกเลิกสัญญาและไม่เคยรับมัดจำจากโจทก์ ถ้าบุตรของจำเลยรับเงินมาจากโจทก์ก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบุตรจำเลย
นายฉุนกังจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยกับนายฉุนจุยติดต่อถ้ายางกับโจทก์คนละราย จำเลยรับเงินจากโจทก์เฉพาะรายของจำเลยเอง จำเลยซื้อยางไว้พร้อมที่จะส่งโจทก์ แต่โจทก์ไม่รับ จำเลยต้องขาดทุนมากกว่า 10,000 บาท เงินมัดจำโจทก์เรียกคืนไม่ได้ เพราะจำเลยริบฐานโจทก์ผิดสัญญา
ระหว่างพิจารณานายอุ่นเม่าโจทก์ตาย นางสินีภรรยาเป็นผู้รับมรดกความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้มีประเด็นว่าฝ่ายใดผิดสัญญาศาลฎีกาเชื่อว่าโจทก์ต่างหากเป็นฝ่ายผัดผ่อนไม่รับซื้อยางจากจำเลยเมื่อถึงกำหนด
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า การซื้อขายรายนี้กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ การผัดผ่อนหรือขยายเวลาจะต้องทำเป็นหนังสือจึงรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 นั้น เห็นว่ากรณีนี้ไม่ใช่เรื่องสัญญาเดิมถูกแก้ไข แต่เป็นเรื่องโจทก์ผิดนัดทั้งที่จำเลยได้ขอปฏิบัติตามสัญญาแล้วจึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือพิพากษายืน