คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์ตาม ม. 290 วรร 1,2 นี้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินไม่ได้ก็แต่ในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นยังอาจเอาชำระได้ จากทรัพย์สินอื่น ๆ นั้น
คำว่า “สามารถ+ชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ ” นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาใช่เป็นการสามารถเอาชำระหนี้ได้ตาม ม.290 วรรค 2 ไม่
ม.290 วรรค 2 บัญญัติไว้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาขอเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้น สามารถเอาชำระจากทรัพย์สินนั้นได้เท่านั้น

ย่อยาว

คดีนี้เป็นชั้นบังคับคดี โจทก์นำยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องทั้ง ๓ ต่างยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่น จำเลยไม่มีทรัพย์ใดเหลืออีก โจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องทั้ง ๓ ได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไว้ในอีกสำนวนหนึ่งและได้รับส่วนเฉลี่ยแล้ว จึงต้องห้ามตาม ป.วิ.แห่ง ม. ๒๙๐ วรรค ๒
ผู้ร้องทั้งสามแถลงว่าได้รับส่วนเฉลี่ยจริงแต่ก็ยังไม่พอชำระหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าหากผู้ร้องได้รับชำระหนี้ตามที่ขอเฉลี่ยไว้ในคดีเลขแดงที่ ๖๑๕/๒๔๙๖ แล้วไม่พอชำระหนี้ ก็ให้สิทธิเฉลี่ยได้ตามคดีนี้อีก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้วตามบทบัญญัติประมวล ก.ม.วิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๙๐ วรรค ๑,๒ นี้จะเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินไม่ได้ก็แต่ในกรณีที่มีทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่ และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นยังอาจเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ นั้น
ศาลฎีกาเห็นว่าคำว่า สามเช่าช่วงารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ได้นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาเป็นการสามารถเอาชำระหนี้ตามความหมายของ ม.๒๙๐ วรรค ๒ ไม่ ศาลฎีกาจึงเห็นว่าบทบัญญัติใน ม.๒๙๐ วรรค ๒ นี้มิได้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้น สามารถเอาชำระจากทรัพย์สินได้เท่านั้น พิพากษายืน

Share