คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1755/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ออกเช็คชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์แก่ ว. โดยมอบเช็คนั้นให้แก่ ฮ. ตัวแทนของ ว. สิทธิในเช็คย่อมตกแก่ ว. แล้ว ตั้งแต่เวลาที่โจทก์มอบเช็คให้แก่ ฮ. โจทก์หามีสิทธิในเช็คดังกล่าวอีกต่อไปไม่ การที่ ฮ. ทำเช็คตกหายและมีผู้เก็บได้แล้วเบียดบังเป็นของตนโดยทุจริต โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันครอบครองเช็คของโจทก์ที่สั่งจ่ายมอบให้แก่นายฮั่งใช้ แซ่อึ้ง เพื่อชำระหนี้แก่ผู้มีชื่อ แต่นายฮั่งใช้ได้ทำเช็คหายไปต่อมาจำเลยทั้งสองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินได้ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒, ๘๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก ๑ เดือน และยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้โดยไม่มีฝ่ายใดโต้เถียงว่า โจทก์ได้ออกเช็คเอกสารหมาย จ.๒ และมอบเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ให้นายฮั่งใช้ แซ่อึ้ง พนักงานเก็บเงินของนายวีระ วารุบางกูรเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์เก่าที่โจทก์ซื้อจากนายวีระแล้วนายฮั่งใช้ได้ทำเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ตกหายระหว่างการเดินทางกลับไปหานายวีระ ต่อมาจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ นำเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ไปเข้าบัญชีของจำเลยทั้งสอง และธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้แก่จำเลยทั้งสองแล้ว เห็นว่าสิทธิในเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ย่อมตกแก่นายวีระแล้วตั้งแต่เวลาที่โจทก์มอบให้นายฮั่งใช้ตัวแทนของนายวีระ โจทก์หามีสิทธิในเช็คเอกสารหมาย จ.๒ อีกต่อไปไม่แม้จะมีผู้เก็บเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ได้ และเบียดยังเป็นของตนโดยทุจริตโจทก์ก็มิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟัง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คเอกสารหมาย จ.๒ ในขณะเช็คเอกสารหมาย จ.๒ หาย มิใช่ผู้เสียหายและพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ ๑ มาด้วยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share