แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ชนะคดี โดยโจทก์ดำเนินคดีด้วยตนเองตลอดมา มิได้แต่งทนายแม้โจทก์จะมีอาชีพเป็นทนายความ ก็ไม่มีค่าทนายความที่จำเลยควรจะใช้แทน ศาลไม่พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทนายแก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินต้น 52,700 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยตามหนังสือกู้
จำเลยให้การว่าไม่ได้รับเงิน 52,700 บาท เคยรับเงินไปเพียง 2,700 บาทเท่านั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยได้กู้และรับเงินไปจากโจทก์จริงดังฟ้อง พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินต้น 52,700 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม 2 ศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายให้ 3,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หลักฐานพยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อยิ่งกว่าพยานจำเลยฟังว่าจำเลยได้กู้เงินโจทก์ไป 52,700 บาทดังฟ้องโจทก์จริง ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ว่าความเอง ที่ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม และค่าทนายทั้งสองศาลแก่โจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท ไม่เป็นการสมควรนั้นเห็นว่าโจทก์ดำเนินคดีโดยตนเองตลอดมาโดยมิได้แต่งทนาย แม้โจทก์จะมีอาชีพเป็นทนายความ ก็ไม่มีค่าทนายความที่จำเลยควรจะใช้แทนโจทก์
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะเรื่องค่าทนายความ 3,000บาท ที่ให้จำเลยใช้แก่โจทก์นั้นให้ตัดออกเสีย และในชั้นฎีกาโจทก์ดำเนินคดีโดยตนเอง จึงไม่ให้ค่าทนายความ