คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การตั้งตัวแทนนั้น แม้ตามกฎหมายจะให้สิทธิแก่ตัวแทนที่จะบอกเลิกสัญญาเสียเวลาใด ๆ ได้ก็ดี แต่การบอกเลิกสัญญานั้นจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 คือ ต้องแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง จะแสดงเจตนาแก่บุคคลภายนอกหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่า เดิมเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือถึงพลเรือโทสุนทร สุนทรนาวิน ให้ชำระหนี้ค่าหุ้นของบริษัท สากลเซอร์วิส จำกัด ผู้ล้มละลาย พลเรือโทสุนทรมอบอำนาจให้นายยุทธ ผู้ร้องเป็นตัวแทนยื่นคำร้องปฏิเสธหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดสอบสวนหนี้รายนี้แต่ยังไม่เสร็จ พลเรือโทสุนทรได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชฑูต ประจำไต้หวัน นายยุทธยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นผู้แทน เพราะไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยังไม่อนุญาต จนบัดนี้ยังมิได้ส่งคำสั่งดังกล่าวให้ตัวความทั้งกลับมีหนังสือยันยันหนี้ถึงพลเรือโทสุนทรผ่านมาทางผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืน แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่รับคืน จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคืนมิฉะนั้นก็ขอให้ยืดกำหนดเวลาคัดค้านไป ๒ เดือน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การเป็นตัวแทนระงับไปตั้งแต่บอกเลิก จึงสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคืนหนังสือยืนยันหนี้จากผู้ร้อง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การตั้งตัวแทนเป็นสัญญาระหว่างตัวการและตัวแทน แม้ตามกฎหมายจะให้สิทธิแก่ตัวแทนที่จะบอกเลิกสัญญาเสียในเวลาใด ๆ ได้ก็ดี แต่การบอกเลิกสัญญานั้นจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยการเลิกสัญญา ซึ่งมีบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง” คดีนี้ปรากฏว่าผู้ร้องมิได้บอกเลิกสัญญาเป็นตัวแทนกับพลเรือโทสุนทร ซึ่งเป็นคู่สัญญา สัญญาตัวแทนจึงยังคงมีอยู่ ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งหนังสือยืนยันหนี้ให้แก่ผู้ร้องซึ่งยังเป็นผู้แทนของพลเรือโทสุนทรอยู่ จึงเป็นการชอบ
พิพากษายืน ให้ยกคำร้องที่ขอให้สั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับหนังสือยืนยันหนี้คือ

Share