แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเข้าครอบครองที่ดิน สาธารณประโยชน์ของแผ่นดินก่อนที่ทางการจะได้ประกาศและขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์นั้น หาทำให้ที่นี้เปลียนสภาพเป็น+ไปไม่ จะครอบครองอยู่นานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ +ที่สาธารณประโยชน์ซึ่งราษฎรใช้ร่วมกันนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งขับไล่ให้ผู้ที่เข้าไปอยู่ออกไปได้โดยไม่ต้องออกกฎหมาย
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยและสามีจำเลยได้เข้าไปอยู่ในที่สาธารณประโยชน์ของแผ่นดินมาประมาณ ๑๐ ปีกว่าแล้ว ต่อมากรมการอำเภอได้มีคำสั่งให้สามีจำเลยออกไปให้พ้นเขตต์นี้สามีจำเลยไม่ยอมออก อัยยการจึงฟ้องหาว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ศาลได้ลงโทษคดีเสร็จไปแล้ว บัดนี้สามีจำเลยถึงแก่กรรม จำเลยผู้เป็นภรรยายังอยู่ในที่นี้สืบมากรมการอำเภอได้มีคำสั่งให้จำเลยออกไปให้พ้นเขตต์อีก จำเลยไม่ยอมออกโจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ศาลชั้นต้นแลศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๒๔ ข้อ ๒
จำเลยฎีกาว่า จำเลยเข้าครอบครองก่อนทางการประกาศและขึ้นทะเบียนว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ และว่าถ้าทางการจะให้เป็นที่สาธรณประโยชน์จะต้องออกพระราชกฤษฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่นี้เป็นที่สาธารณประโยชน์อยู่ก่อนจำเลยเข้าอยู่ แม้จะประกาศและขึ้นทะเบียนภายหลังก็ไม่กลายสภาพไปได้ จำเลยจะอยู่นานเท่าใดก็ไม่เกิดกรรมสิทธิเมื่อจำเลยเข้าอยู่นานเท่าใดก็ไม่เกิดกรรมสิทธิเมื่อจำเลยเข้าอยู่โดยไม่มีกรรมสิทธิ ก็ไม่จำต้องออกพระราชกฤษฎีกา จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒