คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การมอบที่ดินมือเปล่าให้แก่กันนั้นไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย การถือที่ดินมือเปล่าย่อมได้มาซึ่งสิทธิครอบครองอันอาจมอบโอนให้แก่กันได้และผู้รับโอนย่อมได้สิทธิครอบครองยันบุคคลอื่นได้ กู้เงินกันแล้วภายหลังผู้กู้เอาที่ดินมือเปล่าไปมอบให้แก่ผู้ให้กู้เช่นนี้อาจเป็นการรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้เดินตาม ม.321

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ สามีภริยาได้กู้เงินมารดาโจทก์ตกเป็นมฤดกแก่โจทก์ จำเลยที่ ๓ เป็นผู้ค้ำประกัน บัดนี้จำเลยไม่ชำระหนี้จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยที่ ๓ ให้การว่าได้มีการกู้เงินกันจริง แต่จำเลยที่ ๑-๒ ได้ชำระหนี้โดยมอบที่นามือเปล่าให้โจทก์รับไปครอบครองทำกินอยู่จนบัดนี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการเอาที่ดินให้แทนการชำระหนี้โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไม่ชอบด้วยประมวลแพ่งฯ ม.๓๒๒-๑๒๒๙-๔๕๖ จึงสั่งงดสืบพะยานจำเลยที่ ๓ แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๓ ใช้เงินกู้
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามอุทธรณ์ว่าการมอบที่นามือเปล่าให้แก่กันไม่จำเป็นต้องทำหนังสือและจดทะเบียนตาม ม.๑๓๖๗ เพราะการยึดถือที่ดินมือเปล่าย่อมได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง อันอาจมอบโอนให้แก่กันได้ตาม ม.๑๓๗๘ ซึ่งผู้รับโอนได้สิทธิครอบครองยันบุคคลอื่นได้ตาม ม.๑๓๗๔-๑๓๗๕ และเป็นการชอบด้วยกฎหมายโดยมิต้องจดทะเบียน และก็อาจเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ได้ตาม ม.๓๒๑ ที่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นสืบพะยานของจำเลยที่ ๓ ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายืน

Share