แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยจับปลาด้วยเครื่องมือโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำการจับในที่ไม่มีอำนาจในคราวเดียวกัน จำเลยต้องมีความผิด 2 บท มาตรา 18 และ 19 แห่ง พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ แต่ต้องลงอาญาตามบทหนักคือมาตรา 19 ดุลยพินิจ การปรับและการริบทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดเพียงไรเท่าไรนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล
ย่อยาว
คดีได้ความว่าเดิมจำเลยยื่นเรื่องราวขออนุญาตทำโป๊ะ แต่ยังหาได้รับใบอนุญาตไม่ จำเลยได้ลงมือสร้างโป๊ะและจับปลาทันที โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ศก ๑๒๐ มาตรา ๑๘ และให้ริบอวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนแต่ไม่ริบอวน
ศาลฎีกาตัดสินว่าการปรับและการริบเท่าไรเพียงนั้นอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดตามพฤตติการณ์เป็นเรื่อง ๆ ไปและเห็นว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๑๙ ด้วยฐานจับปลาในที่ไม่มีอำนาจ แต่เป็นกรรมและวาระเดียวกับการใช้เครื่องมือโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๘ ต้องใช้มาตรา ๑๙ ที่หนักกว่า จึงแก้บทลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๙ กำหนดโทษจำเลยนั้นคงยืนตามศาลอุทธรณ์