คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ ฟ้องระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินโดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้ว คงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใดกลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเองก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่าจำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการ ซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ทั้งปรากฎตามคำให้การของจำเลย ก็เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีอยู่แล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันทำหนังสือมอบฉันทะปลอม ครั้นเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๔๙๑ จำเลยนำหนังสือปลอมนี้ไปยืนยันว่า เป็นหนังสืออันแท้จริงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดิน ฯลฯ จึงขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงและบทกฎหมายที่ปรากฎในสำนวน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ฟ้องโจทก์ได้ระบุถึงวันเดือนปี ที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ โดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้ว คงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใด กลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเอง ก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่า จำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการ ซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ซึ่งจำเลยพอจะเข้าใจข้อหาได้ดีอยู่แล้ว อันจะเห็นได้จากคำให้การแก้คดีของจำเลย ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์เพียงพอตามความประสงค์ของบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share