แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ ฟ้องระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินโดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้ว คงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใดกลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเองก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่าจำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการ ซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ทั้งปรากฎตามคำให้การของจำเลย ก็เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีอยู่แล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า  จำเลยสมคบกันทำหนังสือมอบฉันทะปลอม   ครั้นเมื่อวันที่  ๒๑  มกราคม  ๒๔๙๑  จำเลยนำหนังสือปลอมนี้ไปยืนยันว่า  เป็นหนังสืออันแท้จริงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดิน  ฯลฯ  จึงขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า  ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด    จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น  ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงและบทกฎหมายที่ปรากฎในสำนวน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า   คดีนี้ฟ้องโจทก์ได้ระบุถึงวันเดือนปี  ที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ  โดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้ว  คงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใด    กลางวันหรือกลางคืน  แต่ตามฟ้องนั้นเอง  ก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่า  จำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการ  ซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน  ซึ่งจำเลยพอจะเข้าใจข้อหาได้ดีอยู่แล้ว  อันจะเห็นได้จากคำให้การแก้คดีของจำเลย  ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์เพียงพอตามความประสงค์ของบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว
จึงพิพากษายืน

