คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินมือเปล่าผู้ใดยึดถือครอบครองไว้ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นยึดไว้เพื่อตน
โจทก์อ้างว่าจำเลยทำหนังสือที่พิพาท จำเลยคัดค้านว่าเป็นหนังสือปลอม โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบพิศูจน์ว่าเป็นหนังสือที่แท้จริง

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าบิดามารดาได้ยกที่นาท้ายฟ้องให้โจทก์ครอบครองตลอดมาจนบัดนี้เป็นเวลา ๓๐ ปีแล้วเมื่อ ๖ ปีมานี้ นางบุญรอดภริยาจำเลยอาศัยทำนาแปลงนี้ ต่อมานางบุญรอดตาย จำเลยได้ทำหนังสือมอบที่นาคืนแก่โจทก์ ครั้นแล้วจำเลยกลับบุกรุกนี้อีก ขอให้ห้ามจำเลยกับบริวาร
จำเลยต่อสู้ว่าหนังสือท้ายฟ้องเป็นหนังสือปลอม นาพิพาทเป็นของนางบุญรอดภริยาจำเลย เมื่อนางบุญรอดตายแล้วตกได้แก่จำเลย โจทก์ไม่เคยครอบครองและต่อสู้ในข้ออื่นอีกหลายประการ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ คำพยานของจำเลยดีกว่า พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ฝากนายจำปาพี่ชาไว้ เมื่อนายจำปาตาย นางใดภริยานายจำปาและนางบุญรอดภริยาจำเลยได้อาศัยทำกินต่อมาเป็นการปกครองที่พิพาทแทนโจทก์จนทั้งสองคนตายไปโจทก์จึงได้ทวงคืนและจำเลยได้ทำหนังสือส่งคืน พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น บังคับจำเลยและบริวารมิให้เกี่ยวข้องในที่พิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่านาพิพาทเป็นมรดกมาเป็นทอด ๆ ที่สุดตกได้แก่จำเลยโดยทางนางบุญรอดภริยา จำเลยได้ครอบครองตลอดมาโจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้อง และเห็นว่านาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ จำเลยเป็นฝ่ายยึดถือครอบครองนาพิพาทอยู่โดยข้อสันนิษฐานแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๙ ต้องถือไว้ก่อนว่าจำเลยยึดถือเพื่อตน โจทก์มีหน้าที่ตต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ หนังสือคืนนาพิพาทนั้นจำเลยปฏิเสธว่าปลอม โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบว่าไม่ปลอม เป็นลายมือชื่ออันแท้จริงของจำเลย ทั้ง ๒ กรณีนี้โจทก์สืบไม่ได้
พิพากษายกฟ้องโจทก์ ยืนตามศาลชั้นต้น

Share