แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 9 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลา การบังคับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฎีกาของจำเลยที่ 9 เป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาท จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 9 และ สั่งคำร้องว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 9 แล้ว คำร้องขอทุเลาการบังคับย่อมตกไปด้วย จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้อง จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่าหมายบังคับคดีฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2535 ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การนำส่งหมายบังคับคดี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิก หมายบังคับคดีดังกล่าวแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำ หมายบังคับคดี ฉบับดังกล่าวมาดำเนินการบังคับคดีกับ จำเลยที่ 9 ได้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย และคดีนี้เป็นคดีไม่มี ทุนทรัพย์ จึงไม่ตกอยู่ภายในข้อบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยที่ 9 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 138) กรณีเป็นชั้นบังคับคดี คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสิบร่วมกันชำระเงินจำนวน 529,320.21 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 9 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในต้นเงิน 48,600 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยที่ 9 ไม่ปฏิบัติ ตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้ออกหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 9 ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีคำสั่งให้อายัดเงินของจำเลยที่ 9 ซึ่งฝากประจำอยู่ที่ธนาคารเอเซียจำกัดสาขาลาดพร้าว จำเลยที่ 9 ยื่นคำร้องว่า โจทก์บังคับคดีโดยมิชอบโดยไม่ทำการบังคับคดีภายในเวลาอันสมควร การขอให้ ออกหมายบังคับคดีของโจทก์จึงเป็นการฝ่าฝืนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้ยกเลิกหมายบังคับคดีและงดการบังคับคดีไว้ก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 9 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 133,132) จำเลยที่ 9 จึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตาม คำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 135)
คำสั่ง จำเลยที่ 9 ยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคแรก ซึ่งไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาจำเลยที่ 9 จึงฎีกาได้ ให้รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยที่ 9 ไว้ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป
