แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่าเสียหายฐานละเมิดนั้นเมื่อโจทก์สืบไม่ได้ว่าเสียหายเท่าไรแน่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจศาลที่จะใช้ดุลยพินิจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า โจทก์ได้ซื้อสวนรายพิพาทที่ตำบลบางปรากด จังหวัดสมุทรประการไว้จากนายสำอางนางลออง แต่สวนนี้จำเลยที่ ๑ ได้เช่าไว้จากเจ้าของเดิม จำเลยที่ ๑ ได้ทำผิดสัญญาเอาสวนไปให้เช่าช่วงโจทก์กับนางลอองเจ้าของเดิมฟ้องขับไล่จำเลยที่ ๑ คดีถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลยและบริวาร เมื่อระหว่างคดีนั้นอยู่ชั้นในชั้นอุทธรณ์ จำเลยที่ ๑ เริ่มแกล้งทำลายสวนโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อปล่อยให้น้ำเค็มไหลเข้าสวนอันผิดประเพณีการทำสวน ทำให้ต้นไม้ตายไปมากแล้วจำเลยช่วยกันตัดต้นไม้ที่ตายหรือทรุดโทรมเอาไปขายหรือทำฟืน กับจำเลยได้สมคบกันทุบทำลายท่อระบายน้ำคอนกรีต ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน ๑๐๕,๙๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ รับว่าเป็นผู้เช่าสวนรายพิพาทและแพ้คดีถึงที่สุดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ละเมิดทำให้เสียหายอย่างใด ต้นไม้ตายไปตามสภาพธรรมดาโจทก์คำนวนค่าเสียหายปราศจากหลักเกณฑ์ ท่อน้ำนั้นเจ้าของเดิมอนุญาตให้จำเลยทำใหม่
จำเลยที่ ๒,๓,๔, ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยได้กระทำให้น้ำเค็มเข้าสวนพิพาทแล้วต้นไม้ตายไปในระหว่างที่จำเลยเช่าถือสวนต้องรับผิดฐานละเมิดตาม ป.พ.พ.ม.๔๒๐ และโจทก์ควรได้รับค่าเสียหายเป็นเวลาเพียง ๒๗ วันเท่านั้น พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เพียง ๑,๗๑๕ บาท
โจทก์อุทธรณ์ขอเรียกค่าเสียหาย ๑๐,๐๐๐ บาทกับขอเรียกค่าท่อระบายน้ำ ๓,๐๐๐ บาท รวม ๑๓,๐๐๐ บาท
จำเลยทุกคนอุทธรณ์ว่า ฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ คนเดียว และขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำบรรยายฟ้องของโจทก์ฐานละเมิดทำให้ต้นไม้สวนตาย ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ ๒,๓,๔, เกี่ยวข้องแก่จำเลยที่ ๑ คนเดียว จำเลยที่ ๒,๓,๔, ช่วยจำเลยที่ ๑ เอาไปทำฟืนเท่านั้น ซึ่งโจทก์ไม่ได้กำหนดราคาหรือนำสืบค่าเสียหายเรื่องต้นไม้ที่ตายไปแล้วเอาไปทำฟือนไว้เลย ถือได้ว่าเป็นเป็นข้อเท็จจริงนอกฟ้อง และฟังว่าจำเลยที่ ๑ จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายจริง ส่วนค่าเสียหายเชื่อคำนายดาบตำรวจสิงห์พยานโจทก์ว่า ฝ่ายจำเลยเคยเสนอให้ ๗,๐๐๐ บาท ซึ่งโจทก์พอใจเห็นควรให้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามนี้ เรื่องท่อน้ำฟังว่าจำเลยได้รับอนุญาตจากเจ้าของเดิมให้รื้อถอน พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้จำเลยแต่ผู้เดียวใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๗,๐๐๐ บาทให้ยกฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๒,๓,๔,
โจทก์ฎีกาฉะเพาะเรื่องท่อระบายน้ำ ขอให้จำเลยทุกคนร่วมกันรับผิดใช้เงิน ๓,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของโจทก์เรื่องท่อน้ำฟังได้ว่าเจ้าของเดิมอนุญาตให้จำเลยที่ ๑ รื้อเพื่อซ่อมแซมจำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิด ส่วนฎีกาของจำเลยที่ ๑ ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยได้ทำละเมิดปล่อยให้น้ำเค็มเข้าสวนรายพิพาทจริง ส่วนค่าเสียหายนั้นโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าได้เสียหายเท่าไรแน่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจศาลที่จะใช้ดุลยพินิจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดตาม ป.พ.พ.ม. ๔๓๘ โจทก์ควรได้รับเพียง ๓,๕๐๐ บาทซึ่งเป็นจำนวนที่พอสมควรแล้ว
พิพากษาแกศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าสินใหมทดแทนให้โจทก์ ๓,๕๐๐ บาท นอกนั้นยืน