คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานพยายามลักทรัพย์เป็นความผิดฐานประทุาร้ายต่อทรัพย์ อันเป็นเหตุร้ายตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ พ.ศ.2479 ม.4 เมื่อจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ครั้งอันมิใช่ความผิดฐานประมาทหรือละหุโทษและมาทำผิดอาญาอันเป็นเหตุร้ายขึ้นอีก ศาลอาจถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม ม.8.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๔๙๗ เวลากลางคืนจำเลยบังอาจลักธบัตร ๙ บาท ของ น.ส.ถนอมสิน ปิยะสุณะ โดยเอามือล้วงเข้าไปเอาทรัพย์นั้นซึ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่เจ้าทรัพย์รู้สึกตัวและขัดขวางจำเลยจึงลักทรัพย์ไปไม่สำเร็จเหตุเกิดในรถยนต์โดยสารประจำทางตำบลเทพศิรินทร์ อำเภอป้อมปราบ จังหวัดพระนคร ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษลักษณะประทุษร้ายต่อทรัพย์มาแล้ว ๒ ครั้ง พ้นโทษไปยังไม่ครบ ๕ ปี จึงขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๓,๖๐,๗๔ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ ม.๔,๘,๙
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๓,๖๐ ให้จำคุกจำเลย ๒ ปี เพิ่มโทษตาม ม.๗๔ ทวีคูณรวมเป็น ๔ ปี ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งคงเหลือโทษ ๒ ปี ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้กักกัน ศาลชั้นต้นเห็นว่าโทษจำเลยครั้งก่อนฐานชิงทรัพย์แต่ครั้งที่ ๒ รับของโจรซึ่งมิใช่เหตุร้ายและครั้งนี้เป็นความผิดเพียงฐานพยายามยังไม่สำเร็จตามฐานความผิด จึงให้งดการกักกัน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้กักกันจำเลย ฝ่ายจำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยในสถานเบา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำเลยมาชอบแล้ว ไม่มีเหตุจะแก้ไข ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษกักกันจำเลยนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าลงโทษได้จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าเมื่อจำเลยพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ ม.๙ อีก ๓ ปี
จำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาได้ฟังคำแถลงการณ์ของจำเลยและประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว
จำเลยฎีกาเป็นข้อ ก.ม.ว่าความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ไม่ใช่ความผิดอันเป็นเหตุร้ายเพราะยังทำผิดไม่สำเร็จจึงลงโทษกักกันจำเลยไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่าความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ก็เป็นความผิดฐานประทุาร้ายต่อทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายตามที่ระบุไว้ในพ.ร.บ.กักกัน พ.ศ.๒๔๗๙ ม.๔ เหมือนกัน เมื่อจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว ๒ ครั้ง และมากระทำผิดอาญาอันเป็นเหตุร้ายขึ้นอีกศาลก็อาจถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม ม.๘ ที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลยพินิจให้กักกันจำเลยด้วยนั้นเป็นการชอบแล้ว จึงพิพากษายืน.

Share