คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน พ้นกำหนดแล้ว 12 วัน ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องว่าป่วยไม่สามารถนำหมายภายในกำหนด ขอนำส่งอีกครั้ง ดังนี้ ถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ. แพ่ง มาตรา 174 (2) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินกู้ตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๐๐ และให้ผู้อุทธรณ์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน ๑๕ วัน จำเลยไม่ได้มานัดหมายนัดส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ตามคำสั่งศาลวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๐๑ ทนายจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ว่า ทนายจำเลยป่วยไม่สามารถมานำหมายภายในกำหนด ขอนำส่งอีกครั้ง โดยจำเลยจะเป็นผู้นำส่งเอง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดล่วงเลยเวลามาจนถึง ๑๒ วันถือว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายอุทธรณ์ จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นโจทก์ชั้นอุทธรณ์ แม้ทนายจำเลยหายป่วยแล้วก็ยังพักผ่อนอีก เวลาจึงได้ล่วงเลยต่อมา ดังนี้ เป็นการเพิกเฉยต่อการที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล พฤติการณ์จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๑๗๔ (๒) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง
พิพากษายืน

Share