แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยที่ปฏิเสธแลซัดถึงคนอื่นนั้น ไม่เปนประโยชน์แก่การพิจารณา
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๕๐
จำเลยปฏิเสธ แก้ว่าวันเกิดเหตุจำเลยเดินมากับนายสาย พบนายเปล่งกลางทาง นายสายกับนายเปล่งเกิดทำร้ายกัน จำเลยเปนผู้ห้าม
ฐานพิจารณาได้ความว่า จำเลยกับนายเปล่งผู้ตายเปนคนโกรธกันมาก่อน เรื่องจำเลยหาว่านายเปล่งลักเข้าเปลือก ในคืนวันเกิดเหตุจำเลยกับนายสาย นายมีได้มาที่โรงยาฝิ่น แลทราบว่านายเปล่งจะคอยดักตี แล้วจำเลยกับพวกก็พากันออกจากโรงยาฝิ่น จำเลยพูดว่า “กลัวอะไรกับมัน” จำเลยถือแหลน นายสายกับนายมีถือมีดแลไม้พลอง ฝ่ายนายเปล่งกับพวกได้ออกจากโรงยาฝิ่นไปกอ่นในไม่ช้าก็พบกับพวกจำเลยเอาไม้ขว้างถูกตานายเปล่งแล้วเห็นจำเลยกับพวกวิ่งเข้ากลุ้มรุมทำร้ายนายเปล่ง แต่ก่อนวิ่งมาทำร้ายจำเลยได้พูดว่า “อย่าทำกันเลยโว๊ย” ต่อจากนี้ไม่พยานว่าเห็นจำเลยทำร้ายนายเปล่งอย่างไร นายเปล่งถูกทำร้ายตายโดยบาดแผลถูกอาวุธ
ศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๙ จำคุกตลอดชีวิต แต่เห็นว่าคำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง จึงให้ลดตามมาตรา ๕๙ คงลดโทษเพียง ๑๖ ปี
ฎีกาตัดสินแก้ว่า ที่ศาลอุทธรณ์ให้ลดโทษจำเลยตามมาตรา ๕๙ นั้นไม่ชอบ เพราะจำเลยให้การปฏิเสธแลซัดทอดถึงนายสาย หามีประโยชน์แก่การพิจารณาไม่ จึงให้จำคุกจำเลย ๒๐ ปีตามมาตรา ๒๔๙