แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยสมคบกันปลิดมะพร้าวมาไว้ที่โคนต้นแล้ว ถือได้ว่ากะทำผิดถานลักทรัพย์สำเหร็ด (อ้างดีกาที่ 1153/2484) เมื่อพวกเจ้าทรัพย์มาพบจำเลยก็หนีไป พวกเจ้าทรัพย์เก็บมะพร้าวแล้วก็ได้ติดตามไปทันที เมื่อทันจำเลยก็จะเข้าจับแต่จำเลยชักอาวุธและขู่จะทำร้ายพวกเจ้าทรัพย์จึงไม่กล้าเข้าจับจำเลยจึงหนีไปเช่นนี้ การกระทำของจำเลยเข้าเกนท์ชิงทรัพย์ตาม ม.899
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยสมคบกันปลิดมะพร้าวจากต้นลงมาไว้แถวโคนต้น พวกเจ้าทรัพย์ฉายไฟไปดู จำเลยทั้ง ๒ จึงลงเรือพายหนีไป พวกเจ้าทรัพย์เก็บมะพร้าวได้ ๔ ลูก แล้วลงเรือไล่จำเลยไป พอไปห่างประมาน ๔ เส้น จำเลยหนีขึ้นถนนพวกเจ้าทรัพย์ก็เข้าจับ จำเลยที่ ๑ ถือหอกทำท่าจะแทง จำเลยที่ ๒ ถือมีดโต้พูดขู่พวกเจ้าทรัพย์จึงไม่กล้าจับ แล้วจำเลยพากันหนีไป
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาว่าการกระทำของจำเลยเปนการชิงทรัพย์ต้องด้วยมาตรา ๒๙๙ จำคุกคนละ ๓ ปี
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำเลยถานพยายามลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๙๓-๖๐ จำคุกคนละ ๔ เดือน แต่มีความเห็นแย้งว่าควนพิพากสายืนตามสาลชั้นต้น.
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่ามะพร้าวเมื่อหยู่บนต้นก็ไม่เปนของลักขโมยได้ แต่ทันไดที่จำเลยปลิดมันขาดจากต้น ก็ได้ชื่อว่ากะทำผิดถานลักทรัพย์สำเหร็ด เพราะการปลิดขาดจากต้นเปนการ”เอาไป” ตามกดหมายแล้วดังนัยคำพิพากสาดีกาที่ ๑๑๕๓/๒๔๘๔ ส่วนการที่จำเลยขู่จะทำร้ายพวกเจ้าทรัพย์นั้นเปนเวลาขาดตอนจากการลักทรัพย์แล้วหรือยังนั้น สาลดีกาเห็นว่าไม่เปนการาขาดตอนกันและการที่จำเลยขู่จะทำร้ายก็เพื่อจะหลีกเหลี่ยงไห้พ้นอาณาสำหรับความผิดถานลักทรัพย์ จำเลยจึงมีความผิดถานชิงทรัพย์ พิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำเลยตามคำพิพากสาสาลชั้นต้นและความเห็นแย้ง