แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วันยื่นฟ้อง ศาลจังหวัดนครราชสีมาสอบถามแล้วจดอายุจำเลยว่า จำเลยอายุ 18 ปี ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดนครราชสีมาจะพิจารณาพิพากษา และศาลจังหวัดนครราชสีมาได้ทำการพิจารณาพิพากษาคดีไปแล้ว ต่อมาจำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันยื่นฟ้องจำเลยอายุ 17 ปี 7 เดือน 8 วัน โดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านมาพร้อมอุทธรณ์คดีอยู่ในอำนาจของ ศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาดังนี้ กรณีต้องด้วยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ซึ่งมีความว่า การพิจารณาพิพากษาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดา และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนนั้นให้เป็นอันใช้ได้แม้ความจริงจะปรากฏในภายหลังว่าข้อเท็จจริงใน เรื่องอายุหรือการบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรสของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะผิดไป ซึ่งถ้าปรากฏเสียแต่ต้นจะเป็นเหตุให้ศาลนั้น ๆ ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ตาม’ดังนี้ การพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมามีผลใช้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นขนาด 20 จำนวนหนึ่งกระบอกซึ่งเป็นของพระภิกษุทัด เดือนกระโทก ที่ได้รับอนุญาตให้มีไว้แล้ว กับมีกระสุนปืนขนาด 20 จำนวนหนึ่งนัดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานและพกพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในที่ชุมนุมชนและจัดให้มีการรื่นเริงอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 9 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ว่า วันฟ้องจำเลยมีอายุ 17 ปี 7 เดือน 8 วัน คดีอยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาที่จะพิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา และศาลจังหวัดนครราชสีมาทำการพิจารณาพิพากษานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันที่โจทก์ยื่นฟ้องศาลจังหวัดนครราชสีมาได้สอบถามและจดอายุของจำเลยไว้ว่า จำเลยอายุ 18 ปี และทำการพิจารณาพิพากษาไปแล้วต่อมาเมื่อจำเลยอุทธรณ์จำเลยอ้างว่า ในวันยื่นฟ้องจำเลยอายุ 17 ปี 7 เดือน 8 วันโดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านมาท้ายอุทธรณ์ ปัญหาเรื่องอายุจำเลยนี้ แม้จะเป็นดังที่จำเลยอ้างกรณีต้องด้วยบทบัญญัติตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ซึ่งมีความว่า “การพิจารณาพิพากษาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดาและศาลที่มีอำนาจพิจารณาดคีเด็กและเยาวชนนั้นให้เป็นอันใช้ได้ แม้ความจริงจะปรากฏในภายหลังว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องอายุหรือการบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรสของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะผิดไป ซึ่งถ้าปรากฏเสียแต่ต้นจะเป็นเหตุให้ศาลนั้น ๆ ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ตาม” ดังนี้ การพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมาจึงมีผลใช้ได้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่