คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นั่งฟังแถลงการณ์ 3 นาย แล้วลงชื่อพิพากษา 2 นาย กับมีผู้พิพากษาที่มีได้นั่งฟังแถลงการณืและมิใช่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ร่วมลงชื่อด้วยอีก 1 นายทำให้คำพิพากษานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชอบที่ศาลฎีกาจะยกเสียและให้พิพากษาใหม่
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2503 และอ้างฎีกาที่ 1205/2473

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทำผิดฐานมีไม่สักซึ่งยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้
จำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ได้ทำผิด
ศาลอุทธรณ์นั่งฟังคำแถลงการณ์โดยผู้พิพากษา ๓ นาย แล้วพิพากษายืน โดยผู้พิพากษาที่นั่งฟังแถลงการณ์ลงนาม ๒ นาย กับมีผู้พิพากษาอื่นที่มิได้นั่งฟังแถลงการณ์ และมิใช่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ร่วมลงนามด้วยอีก ๑ นาย
จำเลยฎีกา ซึ่งมีข้อกฎหมายประการหนึ่งด้วยว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ประกอบด้วยองค์คณะอันชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ว่า แม้ผู้พิพากษาที่นั่งฟังแถลงการณ์ได้ลงนาม ๒ นายพอเป็นองค์คณะแล้วก็ดี แต่การที่ผู้พิพากษา (ไม่ใช่+++พิพากษา) ที่มิได้นั่งฟังแถลงการณ์มาลงชื่อด้วย ย่อมไม่ชอบด้วยนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๓, ๑๘๔ ประกอบด้วยมาตรา ๒๑๕ และยังอาจทำให้มีการจูงใจเป็นเหตุให้ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาฟังคำแถลงการณ์มีความเห็นปรวนแปรไปอย่างไรบ้างก็ได้ด้วย คำพิพากษาฉบับนั้นจึงไม่เป็นคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังที่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้แล้วตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๐๕/๒๔๗๓ จึงให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share