คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9876/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 29 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า… ถ้าปรากฏหลักฐานว่าจำเลยหรือผู้ถูกตรวจสอบเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบรรดาเงินหรือทรัพย์สินที่ผู้นั้นมีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพหรือกิจกรรมอย่างอื่นโดยสุจริตเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้น เมื่อผู้คัดค้านถูกฟ้องเป็นจำเลยและถูกลงโทษในข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ผู้ร้องขอให้ริบย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานของบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวตามมาตรา 29 (1) (2) ว่า ทรัพย์สินของผู้คัดค้านนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือได้ทรัพย์สินมาโดยสุจริต

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องผู้คัดค้านกับพวกเป็นจำเลยตามคดีหมายเลขดำที่ 5290/2541 ของศาลชั้นต้น ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของผู้คัดค้านคือ เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยห้วยไคร้ แม่จัน เลขที่บัญชี 385 – 2 – 11888 – 0 พร้อมดอกเบี้ยแล้วโดยเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ริบทรัพย์สินดังกล่าวตามคำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 27, 29, 31
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ประกาศให้ผู้ซึ่งอาจอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินมายื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีโดยปิดประกาศไว้ที่สำนักงานและที่สถานีตำรวจท้องที่ที่มีการอายัดทรัพย์สินเป็นเวลาเจ็ดวัน ประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันที่มีจำหน่ายแพร่หลายในท้องถิ่นเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน แจ้งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับให้ผู้คัดค้านทราบแล้ว
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ทรัพย์สินที่ผู้ร้องขอให้ริบดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของผู้คัดค้าน ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้คัดค้านได้ทรัพย์สินดังกล่าวมาโดยสุจริต ขอให้คืนทรัพย์แก่ผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้เพิกถอนคำสั่งให้อายัดเงินฝากพร้อมดอกเบี้ยในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยห้วยไคร้ แม่จัน เลขที่บัญชี 385 – 2 – 11888 – 0 ชื่อบัญชี นายหมวก ธรรมมาศ ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินที่ 214/2541 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2541
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ริบเงินฝากพร้อมดอกเบี้ยในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยห้วยไคร้ แม่จัน เลขที่บัญชี 385 – 2 – 11888 – 0 ชื่อบัญชี นายหมวก ธรรมมาศ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ผู้ร้องขอให้ริบ ถูกฟ้องเป็นจำเลยในข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และถูกศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสองให้ลงโทษจำคุกผู้คัดค้าน 33 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9878/2544 คดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า มีเหตุที่จะสั่งคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านตามที่ผู้คัดค้านฎีกาหรือไม่ เห็นว่า ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 29 วรรคสอง บัญญัติว่า …ถ้าปรากฏหลักฐานว่าจำเลยหรือผู้ถูกตรวจสอบเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบรรดาเงินหรือทรัพย์สินที่ผู้นั้นมีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพหรือกิจกรรมอย่างอื่นโดยสุจริตเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้น เมื่อผู้คัดค้านถูกฟ้องเป็นจำเลยและถูกลงโทษในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ทรัพย์สินตามคำร้องจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานของบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าว ตามมาตรา 29 (1) (2) ว่า ทรัพย์สินของผู้คัดค้านนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือได้ทรัพย์สินมาโดยสุจริต เพียงแต่ผู้คัดค้านนำสืบพิสูจน์ลอย ๆ ว่า ทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการที่นางทองสุขชำระหนี้เงินกู้ยืม โดยมิได้มีพยานหลักฐานสนับสนุนให้รับฟังได้ดังกล่าวอ้าง ทั้งมิได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติดังกล่าวมาแล้วข้างต้น พยานหลักฐานของผู้คัดค้านจึงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างพยานผู้ร้องได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ริบทรัพย์สินดังกล่าวชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share