คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5273/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยแล้ว อำนาจในการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยในคดีล้มละลายย่อมเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 ผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงบุคคลภายนอก ที่ฟ้องคดีล้มละลายเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เดิม จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดใด ๆ เป็นส่วนตัวโดยตรงตามกฎหมาย ล้มละลายในเรื่องค่าธรรมเนียมในคดี การที่ผู้ร้องเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือผู้คัดค้าน(เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์)ในการรวบรวมทรัพย์สินโดยปราศจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นชอบด้วยกับ ข้อเสนอของผู้ร้องเช่นนี้ จึงต้องถือว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ใช้ดุลพินิจดำเนินการยึดทรัพย์สินเองโดยเชื่อตาม คำเสนอแนะของผู้ร้อง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจจะอ้างอิงอาศัย พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาออก คำสั่งให้ผู้ร้องต้องนำค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินสำหรับทรัพย์สินที่ไม่มีการขายหรือจำหน่ายมาชำระ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคล ล้มละลาย มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้รวม ๒ ราย คือ เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ และกรมสรรพากร ต่อมาเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ถูกผู้ร้องฟ้องเป็นคดีล้มละลาย ที่ประชุมเจ้าหนี้คดีนี้จึงมีมติแต่งตั้งกรมสรรพากรเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้คัดค้านได้ทำการแบ่งทรัพย์สินแก่เจ้าหนี้เป็นครั้งที่สุดและรายงานศาลขอสั่งปิดคดีจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งปิดคดีแล้ว ต่อมา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเปิดคดีตามรายงานของผู้คัดค้านที่อ้างว่าจำเลยมีทรัพย์สินขึ้นใหม่อีกและผู้ร้องนำผู้คัดค้านยึดที่ดิน โดยอ้างว่าเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับนายมิลินท์ แต่นายมิลินท์ ยื่นคำร้องขอให้ ปล่อยทรัพย์ที่ยึด ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านปล่อยทรัพย์ที่ยึด คดีถึงที่สุดผู้คัดค้านได้ถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวและมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินสำหรับทรัพย์สินที่ไม่มีการขายหรือจำหน่าย ไปชำระต่อ ผู้คัดค้าน ผู้ร้องได้นำค่าธรรมเนียมดังกล่าวไปชำระต่อผู้คัดค้าน แต่ต่อมาผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดใน ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจึงยื่นคำร้องขอคืนเงินที่ผู้ร้องชำระ ผู้คัดค้านพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้คืนเงินจำนวนดังกล่าว แก่ผู้ร้อง และมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวแทน แต่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ชำระ ผู้คัดค้านจึง รายงานขอให้ศาลมีคำสั่งตามมาตรา ๑๔๓ แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าค่าธรรมเนียมดังกล่าว ผู้ขอให้ยึดต้องเป็นผู้รับผิดแทนตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๕๓ ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา ๒๙๕ ตรี ผู้คัดค้านจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมดังกล่าวไปชำระต่อผู้คัดค้านอีก ผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องไม่ต้องรับผิด จึงยื่นคำร้องต่อ ศาลชั้นต้นขอให้มีคำสั่งงดค่าธรรมเนียมดังกล่าวเสีย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าหนี้จำเลย การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้คัดค้านอ้างว่า ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของจำเลย และนำผู้คัดค้านไปยึดทรัพย์สินดังกล่าว โดยในการยึดผู้ร้องแถลงยอมรับผิด ค่าธรรมเนียมและค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นทั้งสิ้นผู้คัดค้านจึงได้ยึดทรัพย์สินดังกล่าว ผู้ร้องจึงเป็น ผู้ขอให้ยึดมีหน้าที่ เสียค่าธรรมเนียมให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษากลับว่า ให้ยกคำสั่งของผู้คัดค้านที่สั่งให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินสำหรับทรัพย์สินที่ไม่มีการขายหรือจำหน่าย จำนวน ๕๔,๖๐๐ บาท ไปชำระต่อผู้คัดค้าน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยแล้ว อำนาจในการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยในคดีล้มละลายย่อมเป็นของผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๒๒ พ.ร.บ. ล้มละลายฯ ไม่ได้มีบทบัญญัติให้บุคคลอื่นเข้ามามีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยด้วยแต่อย่างใด ดังนั้น การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงบุคคลภายนอกที่ฟ้องคดีล้มละลายเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เดิมจึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดใด ๆ เป็นส่วนตัวโดยตรงตามกฎหมายล้มละลายในเรื่องค่าธรรมเนียมในคดีนี้เลย การที่ผู้ร้องเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือผู้คัดค้านในการรวบรวมทรัพย์สินโดยปราศจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ล้มละลาย และผู้คัดค้านเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของผู้ร้องเช่นนี้ จึงต้องถือว่าผู้คัดค้านได้ใช้ดุลพินิจดำเนินการ ยึดทรัพย์สินเองโดยเชื่อตามคำเสนอและของผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายล้มละลายแต่อย่างใดเลย ผู้คัดค้านจึงไม่มีอำนาจจะอ้างอิงอาศัย พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาออกคำสั่งให้ผู้ร้องซึ่งไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องนำค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินสำหรับทรัพย์สินที่ไม่มีการขายหรือจำหน่ายมาชำระต่อผู้คัดค้านได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share