คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ใช้ทางเดินผ่านที่โฉนด 2787 ไปออกทางสาธารณะมาเกิน 10 ปีโดยถือวิสาสะหรือเจ้าของยินยอมไม่โต้แย้ง โจทก์ย่อมได้มาซึ่งสิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ เมื่อจำเลยซื้อที่โฉนด 2787 โดยรู้ถึงสิทธินี้ของโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้ไปจดทะเบียนภาระจำยอมนี้ไว้ จำเลยก็ปิดทางเดิมหาได้ไม่จำเลยจะยกเอาการจดทะเบียนโอนซื้อมาใช้ยันแก่โจทก์ไม่ได้ เพราะเป็นไปโดยไม่สุจริต.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่โฉนดที่ ๗๘๐๐ ตำบลศิริราช จังหวัดธนบุรี พร้อมด้วยบ้าน โจทก์ใช้ทางเดินจากบ้านโจทก์ออกสู่ทางสาธารณะผ่านที่โฉนด ๒๗๘๗ ซึ่งเป็นที่ดินติดต่อที่ของโจทก์ทุกวันมาไม่น้อยกว่า ๓๐ ปี จึงตกเป็นภาระจำยอมตามกฏหมาย ครั้นเมื่อเมษายน ๒๔๙๖ จำเลยได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่โฉนดที่ ๒๗๘๗ จากนายนาวาโทชาญ ต่อมาเมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๔๙๖ จำเลยได้ปิดกั้นทางเดินโดยปิดประตูไม่ยอมให้โจทก์และบริวารเดินออกไปสู่ทางสาธารณะ จึงฟ้องให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยได้ซื้อที่โฉนด ๒๗๘๗ มาโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทน จำเลยไม่ทราบว่ามีภาระจำยอม ทั้งภาระจำยอมนี้ก็ไม่มีจดแจ้งไว้ในทะเบียนอันจำเลยจะทราบได้ โจทก์ไม่มีสิทธิในภาระจำยอม
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีแล้วพิพากษาว่า โจทก์มีภาระจำยอมโดยอายุความ และจำเลยรู้ถึงสิทธินี้เวลาซื้อ จึงตัดสินให้จำเลยเปิดประตูให้โจทก์เดินพร้อมกับให้ค่าเสียหายเดือนละ ๓๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เรื่องว่าค่าเสียหายให้เดือนละ ๑๐ บาท
โจทก์ จำเลยฏีกา
ศาลฏีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ใช้ทางมาเกิน ๑๐ ปี แม้จะเป็นโดยถือวิสาสะหรือเจ้าของยินยอมไม่โต้แย้งปล่อยให้เดินเรื่อยมา โจทก์ย่อมได้มาซึ่งสิทธิภาระจำยอมโดยทางอายุความ ตามประมวลแพ่งฯ มาตรา ๑๓๘๗ และ ๑๔๐๑ เมื่อจำเลยรู้จึงต้องผูกพัน จำเลยยกเอาการจดทะเบียนโอนซื้อเช่นนั้นมาใช้ยันแก่โจทก์ไม่ได้ จึงพิพากษายืนความตามศาลอุทธรณ์.

Share