คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีโดยกำชับว่า นัดหน้าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อม ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำพยานจำเลยมาศาลทั้งหมด หากพยานจำเลยไม่มา จำเลยจะไม่ติดใจสืบพยาน หากพยานจำเลยมาจำนวนเท่าใดจำเลยขอสืบเพียงเท่านั้น ถึงวันนัดทนายโจทก์มาศาล จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาล อ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคคออักเสบไม่สามารถดำเนินคดีในศาลได้คำร้องขอเลื่อนคดีอีกของจำเลยเช่นนี้มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ดังนี้ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้

ย่อยาว

จำเลยฟ้องว่า จำเลยสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เป็นเงิน 195,640 บาทขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่าไม่เคยสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 16 พฤศจิกายน 2527 เวลา 13.30 นาฬิกาถึงวันนัดทนายโจทก์และทนายจำเลยมาศาล สืบพยานโจทก์ได้ 3 ปากโจทก์แถลงว่า ยังติดใจสืบนายสมบัติอีกปากเดียว แต่วันนี้นายสมบัติไม่มาศาลขอเลื่อนไปสืบพร้อมจำเลยในนัดหน้า ทนายจำเลยไม่ค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบโจทก์ต่อและพยานจำเลยพร้อมกันวันที่ 4 ธันวาคม 2527 เวลา 9 นาฬิกา ถึงวันนัดทนายโจทก์และทนายจำเลยมาศาลสืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์แถลงหมดพยานจำเลยแถลงขอสืบแต่วันนี้พยานไม่มาศาลเนื่องจากติดธุระไม่อาจมาได้ขอเลื่อน โจทก์ไม่ค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 11ธันวาคม 2527 เวลา 9 นาฬิกา ศาลชั้นต้นกำชับว่า นัดหน้าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อม ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำพยานจำเลยมาศาลทั้งหมดตามวันเวลาดังกล่าว หากพยานจำเลยไม่มาจำเลยจะไม่ติดใจสืบพยาน หากพยานจำเลยมาจำนวนเท่าใดจำเลยขอสืบเพียงเท่านั้น ถึงวันนัดทนายโจทก์มาศาล จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาลแต่ทนายจำเลยได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลอ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคคออักเสบ ไม่สามารถดำเนินคดีในศาลได้โดยแนบใบรับรองของแพทย์มาด้วย โจทก์คัดค้านว่าไม่ควรให้เลื่อนคดี ศาลชั้นต้นเห็นว่าทนายจำเลยขอเลื่อนเป็นการประวิงคดี ทั้งทนายจำเลยก็มิได้ถามค้านพยานโจทก์ตามประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงให้งดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี มีปัญหาพิจารณาตามฎีกาของจำเลยว่าสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีไปตามคำร้องของจำเลยหรือไม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40 วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วบัญญัติว่า “เมื่อศาลได้กำหนดวันนัดนั่งพิจารณาและแจ้งให้คู่ความทราบแล้ว ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณาต่อไปโดยเสนอคำขอในวันนั้นหรือก่อนวันนั้น ศาลจะสั่งให้เลื่อนต่อไปก็ได้ แต่เมื่อศาลได้สั่งให้เลื่อนไปแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นจะขอเลื่อนการนั่งพิจารณาอีกไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้และคู่ความฝ่ายที่จะขอเลื่อนแสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ก็ให้ศาลสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้เท่าที่จำเป็น แม้จะเกินกว่าหนึ่งครั้ง”คำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยความว่า เนื่องจากทนายจำเลยได้ป่วยเป็นโรคคออักเสบไม่สามารถมาดำเนินคดีในศาลได้ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ที่แนบมาพร้อมคำร้อง จึงขอเลื่อนการนัดพิจารณาออกไปสักนัดหนึ่ง ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มิได้คัดค้านว่าทนายจำเลยไม่ป่วยจริง ต้องถือว่าทนายจำเลยป่วยและมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้แต่จำเลยได้มีคำขอและศาลได้สั่งเลื่อนคดีไปครั้งหนึ่งแล้ว และจำเลยมีคำขอเลื่อนคดีอีกโดยมิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้ ที่ศาลล่างทั้งสองไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีไปชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย..”
พิพากษายืน

Share