แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เจ็บป่วยไปขอความช่วยเหลือจากจำเลย จำเลยไม่พอใจพร้อมพูดว่า บักหมามึงแก่แล้ว พูดจากลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของ มึงไม่มีศีลธรรม มึงไปตายที่ไหนก็ไป ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง จึงมีเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณที่โจทก์ถอนคืนการให้ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 (2)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 45 หมู่ที่ 3 ตำบลอีง่อง อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ดโดยซื้อมาจากนายสม เมื่อปี 2478 ปัจจุบันคือที่ดินโฉนดเลขที่ 35172 ตำบลดู่น้อย อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2521 โจทก์ได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่จำเลยซึ่งเป็นหลานสาวโดยเสน่หา โดยให้นำไปออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ต่อมากลางเดือนกันยายน 2541 จำเลยประพฤติเนรคุณโจทก์ขณะโจทก์เจ็บป่วยและไปขอความช่วยเหลือจากจำเลยด้วยการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงว่า “บักหมา มึงแก่แล้ว พูดจากลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของ มึงไม่มีศิลธรรม มึงไปตายที่ไหนก็ไป” จำเลยได้พูดด่าโจทก์อีกหลายครั้งล้วนแต่ใช้คำว่าโจทก์เป็นหมาและไล่โจทก์ออกจากบ้านไม่ยอมเลี้ยงดูโจทก์สาเหตุเพราะโจทก์เจ็บป่วยไปขอความช่วยเหลือจากจำเลย การกระทำของจำเลยเป็นการไม่เคารพโจทก์ ขอให้เพิกถอนการให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 35172 ตำบลดู่น้อยอำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท เดิมที่ดินพิพาทเป็นของนายสังข์และนางแก้ว วงเดือน ซึ่งเป็นบิดามารดาของโจทก์และเป็นตายายของจำเลย จำเลยเคารพโจทก์ในฐานะเป็นญาติผู้ใหญ่ จำเลยไม่เคยด่าโจทก์ โจทก์ไม่ได้เจ็บป่วยและไม่เคยมาขอความช่วยเหลือจากจำเลย จำเลยไม่ได้ประพฤติเนรคุณโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับ ให้ถอนคืนการให้ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 35172 ตำบลดู่น้อย อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาประการต่อไปมีว่า มีเหตุเพิกถอนการให้หรือไม่ โจทก์เบิกความว่าเมื่อกลางเดือนกันยายน 2541 โจทก์เจ็บป่วยได้ไปขอความช่วยเหลือจากจำเลย แต่จำเลยไม่พอใจพร้อมพูดจาหมิ่นประมาทว่า บักหมามึงแก่แล้ว พูดจากลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของ มึงไม่มีศีลธรรม มึงไปตายที่ไหนก็ไปโดยโจทก์มีนางทองอินทร์ โกสีย์ และนายสวาท เสาวงศ์ เป็นพยานคนกลางเบิกความสนับสนุน คำของจำเลยเพียงเบิกความปฏิเสธลอยๆ จึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักเชื่อว่าจำลยได้กล่าวถ้อยคำดังกล่าวด่าว่าโจทก์อันถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง จึงมีเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณที่โจทก์ถอนคืนการให้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) แล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.