แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตกลงสัญญาชำระค่าจ้างด้วยเงิน คู่สัญญาตกลงกันภายหลังรับชำระค่าจ้างด้วยสิ่งของได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาไม่จ่ายค่าจ้าง จำเลยต่อสู้ว่าได้จ่ายสิ่งของแทนค่าจ้างแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธินำพะยานบุคคลมาสืบได้ แม้ในสัญญาจะได้ระบุว่าชำระหนี้ด้วยเงินก็ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมตัดทอนเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารและเมื่อฝ่ายจำเลยได้ถามค้านพะยานโจทก์ในข้อนี้แล้ว การที่ศาลยอมให้จำเลยสืบพะยาน จึงไม่เป็นการเสียเปรียบ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าได้ทำสัญญาจ้างจำเลยพิมพ์หนังสือรายวันชื่อ “ไทยชนะ” จำเลยผิดสัญญาจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ชำระค่าจ้างแต่วันที่ ๓ พ.ย. ๘๔ เป็นต้นมา จำเลยจึงได้หยุดการพิมพ์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เมื่อวันที่โจทก์มิได้ชำระค่าพิมพ์หนังสือเมื่อวันที่ ๓ พ.ย.๘๔ นั้น จำเลยได้รับตัวพิมพ์เครซที่ใส่ตัวพิมพ์ติดเรียงพิมพ์ ตะไกรตัดกระดาษและทองเหลืองแทนค่าจ้างพิมพ์หนังสือที่มิได้ชำระแล้ว โจทก์จึงสืบหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลยได้พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้รับค่าจ้างจากโจทก์เป็นตัวพิมพ์แล้ว โดยจำเลยได้ตกลงกับนายวิจิตร์ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์นั้น การนำสืบเช่นนี้เป็นการนำสืบเรื่องชำระหนี้ ไม่ใช่เพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๔๔ เพราะเป็นข้อหักล้างข้ออ้างของจำเลยไม่เป็นการนอกประเด็น เมื่อจำเลยยอมรับชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว หนี้นั้นก็ระงับไปตามประมวลแพ่งและพานิชฯมาตรา ๓๒๑ จึงพิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามเอกสารสัญญาข้อตกลงกับชำระหนี้ด้วยเงิน โจทก์จะสืบว่าได้เอาสิ่งของใช้หนี้แล้วได้หรือไม่นั้น เห็นว่าสืบได้เพราะเป็นการอธิบายถึงการใช้ชำระหนี้ซึ่งจำเลยรับไปแล้ว ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมตัดทอนเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร ไม่ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๙๔ (ข) และเมื่อปรากฎว่า โจทก์ได้ถามค้านพะยานจำเลยในข้อนี้ด้วยแล้ว จำเลยจึงไม่เสียเปรียบ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์