คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าวนั้น เมื่อจำเลยรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้ว ย่อมขาดจากสัญชาติไทย ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2496 มาตรา 5 ไม่ว่าจะได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวก่อนหรือหลังวัน พระราชบัญญัตินั้นใช้บังคับ
การที่จำเลยให้การว่าได้เอาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปคืนให้แก่อำเภอ 7-8 ปีแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานอะไร ดังนี้ ก็ย่อมไม่มีเหตุจำเป็นที่ศาลฎีกาจะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2)2496 มาตรา 5 ใช้บังคับเมื่อ 4 ก.พ. 2496 จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวภายใน 30 วันนับแต่วันรู้หรือควรจะรู้ว่าตนได้สูญเสียสัญชาติไทยโจทก์มาฟ้องเมื่อ 15 ก.พ. 2497 ดังนี้ยังหาขาดอายุความไม่ เพราะฟ้องภายในกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่จำเลยไม่ไปขอใบสำคัญประจำตัวภายในกำหนดที่กฎหมายบังคับไว้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเกิดในราชอาณาจักรไทยบิดาเป็นคนต่างด้าว เมื่อ พ.ศ. 2480 จำเลยรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเป็นบุคคลสัญชาติจีนและใช้มาจน พ.ศ. 2490 จึงทำหาย แต่จำเลยยอมเสียไปซึ่งสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) 2496 มาตรา 5 ซึ่งประกาศใช้บังคับแต่ 4 กุมภาพันธ์ 2496 ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนท้องที่ภายใน 30 วัน แต่จำเลยละเลยไม่ไปขอภายในกำหนดที่กฎหมายบังคับขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติต่างด้าว พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 8, 21 พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) 2495 มาตรา 5 พระราชบัญญัติ สัญชาติ (ฉบับที่ 2) 2496 มาตรา 5

จำเลยให้การรับสารภาพ แต่จำเลยได้เอาใบสำคัญไปคืนให้อำเภอ7-8 ปีมาแล้ว ไม่มีหลักฐาน จำเลยเป็นคนไทยจึงไม่มีความผิด

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องปรับ 50 บาท ลดรับสารภาพตาม มาตรา 59 กฎหมายอาญากึ่งหนึ่งปรับ 25 บาท

จำเลยอุทธรณ์ว่าคดีขาดอายุความ หรือให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้พิจารณาพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกาว่าตามฟ้องและคำให้การรับฟังลงโทษได้

ศาลฎีกาปรึกษาว่าเมื่อคดีฟังได้เป็นยุติตามฟ้องและคำรับของจำเลยว่าจำเลยเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยบิดาเป็นคนต่างด้าวและจำเลยได้รับใบสำคัญประจำตัวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้วดังนี้ จำเลยย่อมขาดจากสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2)มาตรา 5 ซึ่งกล่าวว่าไม่ว่าจะได้รับใบสำคัญประจำตัวก่อนหรือหลังวันพระราชบัญญัตินั้นใช้บังคับ ข้อที่จำเลยให้การว่าได้เอาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปคืนให้แก่อำเภอแล้วจำเลยก็ว่าไม่มีหลักฐานอะไร จึงไม่มีเหตุที่จะย้อนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ศาลชั้นต้นพิพากษามาชอบแล้ว อนึ่งคดีโจทก์หาขาดอายุความไม่เพราะโจทก์ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยไม่ไปขอใบสำคัญประจำตัวภายในกำหนดที่กฎหมายบังคับ จึงพิพากษากลับบังคับให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share