คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ช.ค้างชำระค่าที่ดินโจทก์อยู่30,000บาทช.ตกลงยืมเงินจำเลยตามจำนวนดังกล่าวโดยให้จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 30,000 บาทให้โจทก์ไปเมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยสั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คนั้นดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตในการที่ห้ามมิให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คเพราะจำเลยออกเช็คไปก็เพื่อเป็นการชำระหนี้แทน ช.นั่นเองจะอ้างว่าเหตุที่สั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินเพราะ ช.ไม่นำเงินมาชำระแก่จำเลยก่อนเช็คถึงกำหนดตามที่ ช.ตกลงไว้กับจำเลยมิได้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจำเลยกับ ช.เท่านั้นไม่ผูกพันโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 30,000 บาทให้โจทก์โดยจำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายแทนจำเลยที่ 1 เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่ามีคำสั่งให้ระงับการจ่ายแสดงว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือออกเช็คโดยในขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าเงินในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น หรือห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งคดีมีมูล

จำเลยทั้สองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองออกเช็คเพื่อชำระหนี้แล้วสั่งห้ามธนาคารไม่ให้จ่ายเงินตามเช็ค จึงเป็นการห้ามธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(5) ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 20,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 เดือน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่านายชาตรีเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ 30,000 บาท เพื่อชำระราคาที่ดิน นายชาตรีขอยืมเงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ แล้วจำเลยจึงออกเช็คพิพาทให้โจทก์ไป การที่จำเลยออกเช็คดังกล่าวให้โจทก์ก็เพื่อเป็นการชำระหนี้แทนนายชาตรีนั่นเอง เมื่อหนี้ถึงกำหนดแล้วจำเลยสั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คเสียเช่นนี้ ฟังได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตในการที่ห้ามมิให้ธนาคารใช้เงินตามเช็ค จำเลยย่อมมีความผิด ที่จำเลยฎีกาว่าเหตุที่สั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินเพราะนายชาตรีไม่นำเงินมาชำระแก่จำเลยก่อนเช็คถึงกำหนดตามสัญญานั้น เห็นว่า สัญญาดังกล่าวเป็นเรื่องตกลงเป็นส่วนตัวระหว่างจำเลยกับนายชาตรีเท่านั้น ไม่ผูกพันโจทก์

พิพากษายืน

Share