แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลูกจ้างผู้ทำหน้าที่ขับรถยนต์ขนหินขนดินซึ่งบริษัทจำเลยรับเหมา ขณะหยุดพักงานตอนเที่ยงวัน ได้ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยออกไปจากเส้นทางที่ก่อสร้าง เพื่อไปรับประทานอาหาร รถยนต์ชนจักรยานยนต์ซึ่งโจทก์นั่งซ้อนท้ายมา โดยประมาทเลินเล่อ ในการที่ลูกจ้างเอารถของจำเลยขับไปนั้น แม้จะเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของบริษัทจำเลยที่วางไว้ แต่ก็อยู่ระหว่างเวลาที่ลูกจ้างประจำทำงานตามทางการที่จ้างให้แก่บริษัทจำเลยตลอดทั้งวัน ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลย บริษัทจำเลยต้องรับผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างขับรถยนต์ของบริษัทจำเลยซึ่งมีหน้าที่ขับรถขนหินขนดิน ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนโจทก์บาดเจ็บสาหัส ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน ๔๘,๐๐๐ บาท
จำเลยต่อสู้ว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลานอกเวลาปฏิบัติงาน ลูกจ้างเอารถขับไปโดยพละการ เป็นการนอกหน้าที่ตามทางการที่จ้าง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นฟังว่าลูกจ้างของบริษัทจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลย แต่การนั้นอยู่ในทางการที่จ้างของจำเลย พิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๓๑,๕๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การละเมิดของลูกจ้างจำเลยต่อโจทก์ เป็นการกระทำนอกทางการที่จ้าง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาหยุดพักรับประทานอาหารตอนกลางวัน ๑ ชั่วโมง ลูกจ้างของจำเลยได้ขับรถของจำเลยออกไปจากเส้นทางที่กำลังก่อสร้างซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเส้นทางที่ก่อสร้างถนนนัก เพื่อไปรับประทานอาหาร มีลูกจ้างของจำเลยติดตามไปด้วย ๓ – ๔ คน รถยนต์ที่ลูกจ้างขับไปนั้นชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์นั่งซ้อนท้ายมาโดยประมาท ศาลพิพากษาลงโทษลูกจ้างของจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว แม้ลูกจ้างของจำเลยจะขับรถไปโดยฝ่าฝืนระเบียบที่จำเลยวางไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นระหว่างเวลาที่ลูกจ้างของจำเลยประจำทำงานตามทางการที่จ้างให้แก่บริษัทจำเลยตลอดทั้งวัน เมื่อรถยนต์ไปชนโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ เช่นนี้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
พิพากษาแก้ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๒๙,๕๐๐ บาท.