คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 970/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้จัดการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ได้พิมพ์โฆษณาข้อความดังที่โจทก์บรรยายไว้ในฟ้องให้ปรากฎแก่ประชาชนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 นั้น การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดว่า ข้อความที่กล่าวนั้นเป็นความผิดหรือไม่ และจำเลยพิมพ์โฆษณาด้วยเจตนาอย่างไร จำต้องพิจารณาจากข้อความทั้งหมด ประกอบกับพฤติการณ์อย่างอื่น ๆ ด้วย จะพิจารณาเพียงข้อความที่จำเลยโฆษณาบางตอนหรือบางส่วนหาได้ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของผู้จัดการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อ “อิสสระรายวัน” ซึ่งพิมพ์ขึ้นในราชอาณาจักร ได้บังอาจพิมพ์โฆษณาข้อความหรือบทประพันธ์ในหนังสือพิมพ์รวม ๘ ฉบับ มีข้อความตามคำบรรยายฟ้องอันเป็นการยุยงส่งเสริมให้ประชาชนละเมิดกฎหมายของแผ่นดินทั้งยุยงส่งเสริมให้ประชาชนก่อการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาล และมีเจตนาจะชักจูงและยุยงส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเกลียดชังรัฐบาล เป็นการกระทำอันมิใช่ภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ มิใช่เป็นการแสดง ความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต จำเลยกระทำเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนอันถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖
จำเลยให้การว่า เป็นบรรณาธิการและได้ลงพิมพ์ข้อความในหนังสือพิมพ์ตามฟ้องจริง แต่กระทำไปเพื่อแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต และเป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริตพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ ให้จำคุก จำเลย ๑ ปี
จำเลยฎีกา
ศษลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้จัดการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อ “อิสสระรายวัน” ได้พิมพ์โฆษณาข้อความดังที่โจทก์ได้บรรยายไว้ในฟ้อง ให้ปรากฎแก่ประชาชนอันเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ ฉะนั้น การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดว่าข้อความที่กล่าวนั้นเป็นความผิดหรือไม่ และจำเลยพิมพ์โฆษณาด้วยเจตนาเช่นไร จึงจำเป็นต้องพิจารณาจากข้อความทั้งหมดประกอบกับพฤติการณ์อย่างอื่น ๆ ด้วย จะพิจารณาเพียงข้อความที่จำเลยโฆษณาบางตอนหรือบางส่วนหาได้ไม่” ศาลฎีกาได้หยิบยกเหตุผลต่าง ๆ ขึ้นวินิจฉัย แล้วพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.

Share