คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาค้ำประกันบุคคลผู้มีหน้าที่เก็บเงินของการไฟฟ้า ฯ ไว้ว่า ถ้าบุคคลนั้นทำความเสียหายเป็นเหตุให้เงินของการไฟฟ้า ฯ ที่ตนได้รับมอบหมายไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายสูญเสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี ผู้ค้ำประกันยอมรับชดใช้ให้ นั้น หากปรากฏว่าบุคคลนั้นปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินแล้วไปเก็บเงินของการไฟฟ้า ฯ เอาเสียเองแล้ว จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดเพราะมิได้มีการมอบหมายให้ไปเก็บเงินแต่อย่างใด และการตีความตามสัญญาเช่นนี้ ก็ต้องเป็นไปโดยเคร่งครัด จะแปลเอาตามเจตนารมย์หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำหนังสือสัญญาค้ำประกันนายมาน้อมไว้ต่อโจทก์ว่า ในการที่นายมาน้อมได้ทำหน้าที่เก็บเงินจากลูกหนี้ของการไฟฟ้าเทศบาลนครเชียงใหม่ หากทำความเสียหายเป็นเหตุให้เงินของแผนกการไฟฟ้าเทศบาลขาดหายสูญเสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี จำเลยย่อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในวงเงินไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท นายมาน้อมได้ปลอมแปลงเอกสารสิทธิฉ้อโกงเงินค่ากระแสไฟฟ้าของแผนกการไฟฟ้าของโจทก์รวม ๔,๒๐๕.๒๕ บาท จนศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาจำคุกในคดีแดงที่ ๔๙๗/๒๕๐๒ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ได้ค้ำประกันนายมาน้อมจริง แต่เฉพาะในกรณีที่นายมาน้อมทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้เงินของแผนกการไฟฟ้า เทศบาลเชียงใหม่ที่นายมาน้อมรับมอบหมายไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหาย สูญหายไปเท่านั้น กรณีที่โจทก์กล่าวไม่อยู่ในข่ายแห่งสัญญาค้ำประกัน นายมาน้อมมิได้ฉ้อโกงโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าสัญญาค้ำประกันจำเลยยังไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์สัญญาค้ำประกันแล้ว ข้อ ๑ มีความว่า ผู้ค้ำประกันยอมค้ำประกันตัวนายมาน้อมซึ่งได้รับหน้าที่เป็นคนเก็บเงินจากลูกหนี้ของแผนกการไฟฟ้า เทศบาลนครเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๐๐ เป็นต้นไปจนกว่าผู้ให้ค้ำประกันจะอนุญาตจนกว่าจะพ้นจากหน้าที่ และข้อ ๒ มีความว่า “ในการที่นายมาน้อมได้ทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้แผนกการไฟฟ้าเทศบาลนครเชียงใหม่ที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายสูญสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี ผู้ค้ำประกันยอมรับชดใช้ให้ ฯลฯ” ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาค้ำประกันนี้เป็นการค้ำประกันนายมาน้อมคนเก็บเงินตามข้อ ๑ ก็จริง แต่ก็เป็นไปในกรณีตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๒ เท่านั้น มิใช่จะประกันการกระทำใด ๆ ของนายมาน้อมทุกสิ่งทุกอย่างตามสัญญาค้ำประกันข้อ ๒ จำเลยจะต้องรับผิดต่อเมื่อนายมาน้อมทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้เงินของการไฟฟ้าที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายไป แต่ในเรื่องนี้โจทก์มิได้มอบหมายให้นายมาน้อมไปเก็บเงิน หากแต่นายมาน้อมปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินแล้วไปเก็บเอาเอง จำเลยจึงหาต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันไม่ และสัญญาค้ำประกันเป็นสัญญาที่ผู้ค้ำประกันมีความรับผิดแต่ฝ่ายเดียวการตีความตามสัญญาจึงต้องเป็นไปโดยเคร่งครัดจะแปลเอาตามเจตนารมย์ของโจทก์ดังฎีกาหาได้ไม่ และถ้าโจทก์เห็นว่าเป็นเรื่องที่จะก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงจนกระทบกระเทือนไปถึงรัฐด้วยแล้ว โจทก์ก็ควรที่จะทำสัญญาให้มีข้อความ มีความหมายเข้าใจถึงเจตนารมย์ของโจทก์ระบุถึงความรับผิดของผู้ค้ำประกันไว้โดยชัดเจน มิฉะนั้นจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดไม่ได้
พิพากษายืน

Share