แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันบุคคลผู้มีหน้าที่เก็บเงินของการไฟฟ้า ฯ ไว้ว่า ถ้าบุคคลนั้นทำความเสียหายเป็นเหตุให้เงินของการไฟฟ้า ฯ ที่ตนได้รับมอบหมายไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายสูญเสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี ผู้ค้ำประกันยอมรับชดใช้ให้ นั้น หากปรากฏว่าบุคคลนั้นปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินแล้วไปเก็บเงินของการไฟฟ้า ฯ เอาเสียเองแล้ว จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดเพราะมิได้มีการมอบหมายให้ไปเก็บเงินแต่อย่างใด และการตีความตามสัญญาเช่นนี้ ก็ต้องเป็นไปโดยเคร่งครัด จะแปลเอาตามเจตนารมย์หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยทำหนังสือสัญญาค้ำประกันนายมาน้อมไว้ต่อโจทก์ว่า  ในการที่นายมาน้อมได้ทำหน้าที่เก็บเงินจากลูกหนี้ของการไฟฟ้าเทศบาลนครเชียงใหม่  หากทำความเสียหายเป็นเหตุให้เงินของแผนกการไฟฟ้าเทศบาลขาดหายสูญเสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี  จำเลยย่อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในวงเงินไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท  นายมาน้อมได้ปลอมแปลงเอกสารสิทธิฉ้อโกงเงินค่ากระแสไฟฟ้าของแผนกการไฟฟ้าของโจทก์รวม ๔,๒๐๕.๒๕ บาท  จนศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาจำคุกในคดีแดงที่ ๔๙๗/๒๕๐๒  จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า  ได้ค้ำประกันนายมาน้อมจริง  แต่เฉพาะในกรณีที่นายมาน้อมทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้เงินของแผนกการไฟฟ้า  เทศบาลเชียงใหม่ที่นายมาน้อมรับมอบหมายไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหาย  สูญหายไปเท่านั้น  กรณีที่โจทก์กล่าวไม่อยู่ในข่ายแห่งสัญญาค้ำประกัน  นายมาน้อมมิได้ฉ้อโกงโจทก์  จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว  เห็นว่าสัญญาค้ำประกันจำเลยยังไม่ต้องรับผิด  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์สัญญาค้ำประกันแล้ว  ข้อ ๑ มีความว่า  ผู้ค้ำประกันยอมค้ำประกันตัวนายมาน้อมซึ่งได้รับหน้าที่เป็นคนเก็บเงินจากลูกหนี้ของแผนกการไฟฟ้า เทศบาลนครเชียงใหม่  ตั้งแต่วันที่  ๒  พฤษภาคม  ๒๕๐๐  เป็นต้นไปจนกว่าผู้ให้ค้ำประกันจะอนุญาตจนกว่าจะพ้นจากหน้าที่  และข้อ ๒ มีความว่า  “ในการที่นายมาน้อมได้ทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้แผนกการไฟฟ้าเทศบาลนครเชียงใหม่ที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายสูญสียไปด้วยประการใด ๆ ก็ดี  ผู้ค้ำประกันยอมรับชดใช้ให้ ฯลฯ”  ดังนี้  ศาลฎีกาเห็นว่า  สัญญาค้ำประกันนี้เป็นการค้ำประกันนายมาน้อมคนเก็บเงินตามข้อ ๑ ก็จริง  แต่ก็เป็นไปในกรณีตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๒ เท่านั้น  มิใช่จะประกันการกระทำใด ๆ ของนายมาน้อมทุกสิ่งทุกอย่างตามสัญญาค้ำประกันข้อ ๒ จำเลยจะต้องรับผิดต่อเมื่อนายมาน้อมทำความเสียหายอันเป็นเหตุให้เงินของการไฟฟ้าที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปเก็บจากลูกหนี้ขาดหายไป  แต่ในเรื่องนี้โจทก์มิได้มอบหมายให้นายมาน้อมไปเก็บเงิน  หากแต่นายมาน้อมปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินแล้วไปเก็บเอาเอง  จำเลยจึงหาต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันไม่  และสัญญาค้ำประกันเป็นสัญญาที่ผู้ค้ำประกันมีความรับผิดแต่ฝ่ายเดียวการตีความตามสัญญาจึงต้องเป็นไปโดยเคร่งครัดจะแปลเอาตามเจตนารมย์ของโจทก์ดังฎีกาหาได้ไม่  และถ้าโจทก์เห็นว่าเป็นเรื่องที่จะก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงจนกระทบกระเทือนไปถึงรัฐด้วยแล้ว  โจทก์ก็ควรที่จะทำสัญญาให้มีข้อความ  มีความหมายเข้าใจถึงเจตนารมย์ของโจทก์ระบุถึงความรับผิดของผู้ค้ำประกันไว้โดยชัดเจน  มิฉะนั้นจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดไม่ได้
พิพากษายืน

