แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คืนเกิดเหตุ ม. พาผู้ตายมาบ้านจำเลยเพื่อเอาตัว ป.ภริยา ม. ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยไป ได้พากันขึ้นไปบนเรือนจำเลยซึ่งจำเลยกับพวกนอนกันแล้ว ม. เรียก ป. ให้เปิดประตูป. ไม่เปิด ม. ก็ดันประตูจะเข้าไปจำเลยลุกขึ้นขัดขวาง ม. และผู้ตายขัดขืนจะเข้าไปเอาตัว ป. ให้ได้ ดันประตูเรือนจนไม้กลอนขัดประตูหัก นับว่า ม. และผู้ตายกระทำการมิชอบ ด้วยความอุกอาจปราศจากความยำเกรงจำเลยซึ่งเป็นพ่อตาและเจ้าของบ้านเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยบันดาลโทสะขึ้นในขณะนั้นจึงยิงไปยัง ม. และผู้ตายผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนยิงนายมะลิหรือสอด หมอกมืดโดยเจตนาแต่กระสุนปืนพลาดไปถูกนายเมี้ยน หงษ์สัมฤทธิ์ ถึงแก่ความตาย
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60, 33
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุกจำเลย 15 ปี จำเลยให้การชั้นสอบสวนและนำสืบเป็นประโยชน์แก่คดี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเป็นการป้องกันทรัพย์และตนเองและครอบครัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายมะลิพานายเมี้ยนผู้ตายมาบ้านจำเลยในคืนเกิดเหตุเพื่อจะเอาตัวนางประจำภริยานายมะลิไปให้ได้นางประจำเป็นบุตรจำเลยได้พากันขึ้นไปบนเรือนจำเลยในเวลาค่ำคืน 21 นาฬิกาเศษ ซึ่งจำเลยกับพวกนอนหลับกันแล้ว นายมะลิเรียก นางประจำให้เปิดประตูเรือน นางประจำไม่เปิด นายมะลิ ก็ดันประตูจะเข้าไป จำเลยจึงลุกขึ้นขัดขวาง นายมะลิ นายเมี้ยน ผู้ตายขัดขืนจะเข้าไปเอาตัวนางประจำให้ได้ ดันประตูเรือนจนไม้กลอนขัดประตูหัก นับว่านายมะลิและผู้ตายกระทำการมิชอบ ด้วยความอุกอาจปราศจากคยามยำเกรงจำเลยผู้เป็นพ่อตาและเจ้าของบ้าน เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เหลือวิสัย ที่จำเลยจะอดกลั้นโทสะไว้ได้จำเลยบันดาลโทสะขึ้นในขณะนั้นจึงยิงไปทางนายมะลิและผู้ตาย 1 นัด จำเลย ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี