แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสั่งจ่ายเงินค่าทำศพให้แก่ทายาทของผู้ตายไป โดยฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมที่ว่าให้จ่ายเงินให้ผู้จัดการอันสมควรของสมาชิกผู้วายชนม์ ผู้จัดการศพของผู้วายชนม์จึงมาฟ้องสมาคมเรียกเงินค่าทำศพจนศาลพิพากษาให้สมาคมรับผิดจ่ายเงินค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของผู้วายชนม์ไปแล้ว สมาคมย่อมมีสิทธิฟ้องกรรมการที่เกี่ยวข้องในการสั่งจ่ายเงินค่าทำศพดังกล่าวแก่ทายาทไป และฟ้องผู้รับเงิน หรือทายาทของผู้รับเงินให้ร่วมกันรับผิดคืนเงินที่รับไปแก่สมาคมได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 – 2 ได้สั่งจ่ายเงิน 900 บาท ค่าทำศพนายเพิ่ม ให้นายอั๋งจำเลยบุตรเขยนายเพิ่มไป โดยนายหรี่จำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน โดยไม่มีอำนาจที่จะจ่าย และฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมเพราะจำเลยที่ 1-2 มีหน้าที่สั่งจ่ายเงินค่าทำศพนายเพิ่มให้แก่นายโฮ้ ผู้จัดการศพของนายเพิ่มเท่านั้น ทำให้สมาคมได้รับความเสียหาย เนื่องจากนายโฮ้เป็นโจทก์ฟ้องสมาคมศาลพิพากษาให้สมาคมจ่ายเงินค่าทำศพแก่นายโฮ้ จึงขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงิน 900 บาทแก่สมาคมพร้อมทั้งดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1, 3, 4 ร่วมกันคืนเงิน 900 บาทแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องเฉพาะนายเอื้อนจำเลยที่ 3
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อบังคับของสมาคมมีว่า “ให้จ่ายเงินให้ผู้จัดการอันสมควรของสมาชิกผู้วายชนม์” ศาลฎีกาเห็นว่าผู้จัดการศพไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทของผู้วายชนม์เสมอไป ผู้อื่นก็อาจเป็นผู้สมควรจัดการศพได้ เมื่อนายโฮ้เป็นผู้จัดการทำบุญและเผาศพนายเพิ่มจริง โดยนายโฮ้ออกเงินค่าใช้จ่ายไปก่อนแล้ว จึงมาขอเงินค่าทำศพจากสมาคมโจทก์ ทางสมาคมจึงมีหน้าที่จ่ายเงินค่าทำศพแก่นายโฮ้ตามข้อบังคับ จำเลยต้องรับผิดคืนเงินที่จ่ายให้นายอั๋งจำเลยไปแก่สมาคมโจทก์
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้นายสระจำเลยที่ 1, นายอั๋งจำเลยที่ 3 ใช้เงิน 900 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย ฯลฯ ถ้านายอั๋งไม่ใช้ให้นายหรี่จำเลยใช้แทน ฯลฯ