คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย มีข้อความให้จำเลยส่งคืนโฉนดให้แก่โจทก์ตามกำหนดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงอื่นใดอีกหรือได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม หลังจากทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว โจทก์จำเลยมีกรณีพิพาทฟ้องร้องกันและกัน ซึ่งในที่สุดได้ตกลงประนีประนอมกันโดยต่างก็ถอนฟ้องของตนไปโดยไม่กล่าวถึงบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ข้อตกลงนั้นจึงมีผลใช้บังคับอยู่โดยสมบูรณ์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้บังคับจำเลยตามข้อตกลงได้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนโฉนดเลขที่ 13424 แก่โจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 13424 เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำบันทึกให้แก่โจทก์ว่าจะนำโฉนดของโจทก์มาคืนให้แก่โจทก์ภายในวันที่ 10 มกราคม 2520 ครั้นถึงกำหนดจำเลยไม่คืนโฉนดแก่โจทก์ ขอให้จำเลยคืนโฉนดเลขที่ 13422, 13424ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ให้แก่โจทก์จำเลยให้การว่า จำเลยมีสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินของโจทก์ได้ตามข้อตกลง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลยส่งโฉนดเลขที่ 13422 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรีเนื้อที่ 81 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่ 13424 ตำบลปากเพรียวอำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เนื้อที่ 69 ตารางวา ให้แก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้รับโฉนด 2 ฉบับของโจทก์ไปตามฟ้อง ต่อมาจำเลยได้ทำหนังสือรับรองว่าจะคืนให้แก่โจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 แต่จำเลยไม่คืนให้โดยอ้างว่าในการที่จำเลยจะคืนโฉนดดังกล่าวให้โจทก์นั้นโจทก์จะต้องคืนเช็คจำนวน 4 ฉบับ ที่จำเลยมอบให้โจทก์ไว้ให้แก่จำเลยด้วย คดีมีปัญหาว่าในการที่จำเลยจะต้องคืนโฉนดให้โจทก์นั้นโจทก์จะต้องคืนเช็คให้แก่จำเลยตามข้อต่อสู้หรือไม่ ศาลฎีกาได้ตรวจดูบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยตามที่โจทก์อ้างส่งหมาย จ.1 ซึ่งจำเลยมิได้โต้แย้งแล้วเห็นว่า ตามเอกสารดังกล่าวมีข้อความให้จำเลยส่งคืนโฉนดให้แก่โจทก์ตามกำหนดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไขอย่างใด ถ้ามีเงื่อนไขอย่างใดก็น่าจะกำหนดลงไว้ด้วยพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบก็ไม่ปรากฏว่า นอกจากข้อตกลงตามบันทึกนี้แล้ว มีข้อตกลงอื่นใดอีกหรือได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งที่ปรากฏว่าหลังจากทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวแล้วโจทก์จำเลยมีกรณีพิพาทฟ้องร้องกันและกัน ซึ่งในที่สุดได้ตกลงประนีประนอมกันโดยต่างก็ถอนฟ้องของตนไปโดยไม่กล่าวถึงบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ข้อตกลงนั้นจึงมีผลใช้บังคับอยู่โดยสมบูรณ์ซึ่งโจทก์จำเลยยังต้องปฏิบัติต่อกัน เมื่อครบกำหนดเวลาตามข้อตกลงนั้นแล้ว จำเลยจึงต้องคืนโฉนดตามฟ้องให้แก่โจทก์ จำเลยไม่คืนให้โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ หาใช่กรณีเป็นดังจำเลยฎีกาว่าเป็นการรับสภาพหนี้ว่าจะชำระหนี้อันไม่มีมูลต่อกันไม่ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 13424 แทนที่จะให้ส่งมอบโฉนดเลขที่ 13424และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนนั้นเป็นการเกินคำขอในฟ้องของโจทก์”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยส่งมอบโฉนดเลขที่ 13424 ตามฟ้องแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share