แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2514 จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาถนนตะนาว จำนวนเงิน 3,000 บาท ขอแลกเงินโจทก์ โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาบางซื่อ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่า “บัญชีปิดแล้ว”ขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ฯลฯ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องเพื่อขอแลกเงินกับโจทก์ แต่ได้จ่ายเช็คเพื่อประกันเงินกู้โดยมิได้ลงวันที่โจทก์ลงวันที่ในเช็คไม่ถูกต้อง หากลงวันที่ที่แท้จริง คดีโจทก์จะขาดอายุความ และจำเลยได้ชำระหนี้แล้ว
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานว่า คดีมีประเด็นเดียวว่า จำเลยชำระเงินตามเช็คให้โจทก์แล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินตามเช็ค และคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวม 3,116 บาท 25 สตางค์ ให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 3,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นกะประเด็นหน้าที่นำสืบผิด โดยจะต้องมีประเด็นว่า เช็ครายพิพาทขาดอายุความฟ้องร้องหรือไม่ด้วย จึงขอให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นแล้วพิพากษาคดีใหม่ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นได้ยกข้ออายุความขึ้นวินิจฉัยแล้วว่าเช็ครายพิพาทไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง และศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยกับศาลชั้นต้น ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีมาชอบแล้ว
พิพากษายืน