คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์สมัครใจวิวาททำร้ายกับจำเลยโดยนิตินัยโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาล และดจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในกรณีนี้ ไม่ว่าจำเลยจะได้มีชื่อเป็นผู้เสียหายในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องหาว่าวิวาทรายเดียวกันนั้นด้วยหรือไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง ๓ ร่วมกัน ชก ต่อย และใช้ก้อนหินตี ทุบ โจทก์ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๕,๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว โจทก์เบิกความว่าโจทก์ถูกจำเลยทั้งสามทำร้าย จึงวิ่งหนี้ไปแอบ ๑ ชั่วโมงเศษ จึงไปแจ้งความตำรวจบอกว่าจำเลยทั้งสามได้แจ้งความว่า โจทก์ทำร้าย โจทก์ถูกผู้ว่าคดีฟ้องตามคดีอาญาแดงที่ ๕๐๐๔/๒๕๐๔ ศาลปรับโจทก์ ๕๐๐ บาท โจทก์ฟ้องคดีนี้ตอนโจทก์ถูกผู้ว่าคดีฟ้องแล้ว
ปรากฏตามคดีแดงดังกล่าว โจทก์ถูกฟ้องว่า โจทก์กับพวกได้ชกต่อยใช้มีดแทงทำร้ายนายเฮ่าหงี นายงักเคี้ยง และนายเฮ่าหงี ผู้เสียหายได้เข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าวิวาททำร้ายกัน โจทก์ผิดมาตรา ๒๙๕ คดีถึงที่สุด
คดีนี้ โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงจึงยุติว่า โจทก์จำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายกัน
ที่โจทก์ฎีกาว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒(๔) บัญญัติแต่ว่า “ผู้เสียหายหมายถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง” ไม่มีข้อยกเว้นว่า ถ้าเป็นฐานวิวาทแล้วไม่ใช่ผู้เสียหาย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์สมัครใจวิวาททำร้ายกับจำเลย โดยนิตินัย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ที่โจทก์ฎีกาว่า นายหุ้นเจียวจำเลยที่ ๓ มิได้เป็นผู้เสียหายในคดีที่โจทก์ถูกฟ้อง ดังนั้น โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายเฉพาะจำเลยที่ ๓ ได้เป็นอย่างน้อย นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นการวิวาทรายหนึ่งรายเดียวกัน โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า นายเฮ่าหงี นายงักเคี้ยง กับนายหุ้นเจียวร่วมกันทำร้ายโจทก์ ดังนั้น เมื่อฟังได้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายในผลที่เกิดจากการวิวาททำร้ายกันรายนี้แล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในกรณีนี้ต่อศาล ไม่ว่านายหุ้นเจียวจะได้มีชื่อเป็นผู้เสียหายในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องด้วยหรือไม่ พิพากษายืน.

Share