คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยอาศัย ขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่ามิใช่อาศัย แต่เป็นการเช่าช่วงจากโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตอนแรกจำเลยเข้ามาปลูกเรือนอยู่ในสวนพิพาทนั้น โดยเป็นการอาศัยโจทก์ แต่ต่อมาโจทก์ซื้อกิ่งส้มมาให้จำเลย ปลูกและดูแลรักษาเพื่อแบ่งผลกัน พฤติการณ์ตอนหลังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยอยู่ในสวนพิพาทในฐานะผู้ดูแลรักษาต้น ส้มอันจำเลยมีผลประโยชน์ร่วมด้วย เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความชัดว่าการอยู่อาศัยกับการปลูกดูแลรักษาต้นส้มนั้น แยกขาดจากกัน ดังนี้ จะชี้ขาดว่า พฤติการณ์ตอนหลังนี้เป็นเรื่องอาศัยไม่ถนัด โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย แต่ข้อเท็จ จริงในขณะฟ้องร้องกัน ฟังไม่ได้ดังฟ้องก็ต้องยกฟ้องโจทก์./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าสวนพิพาทจากกองรักษาที่หลวง กรมคลัง ได้อนุญาตให้จำเลยที่ ๑ เข้าอยู่อาศัยและช่วยโจทก์ดูแล รักษาส่วนหนึ่งของที่สวนรายนี้ ส่วนจำเลยที่ ๒ เป็นบริวารจำเลยที่ ๑ บัดนี้ โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอยู่ต่อไป แต่จำเลย ขัดขืนไม่ยอมออก จึงขอให้ขับไล่
จำเลยต่อสู้ว่า ่เช่าช่วงสวนพิพาทจากโจทก์ ๆ ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนทำการปลูกส้ม ขายแบ่งปันกันคนละครึ่ง จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ขับไล่จำเลย,
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตอนแรกที่นายผันจำเลยเข้ามาปลูกเรือนในสวนรายพิพาทนั้น น่าจะเป็นการอาศัยโจทก์ดังโจทก์นำ สืบมา ไม่ใช่เป็นการเช่าช่วงดังจำเลยนำสืบ แต่ต่อมาโจทก์ได้ซื้อกิ่งส้มมาให้นายผันจำเลยปลูกดูแลรักษา เพื่อแบ่ง ผลกัน พฤติการณ์ตอนหลังนี้ ฟังได้ว่านายผันจำเลยอยู่ในสวนพิพาท ในฐานะผู้ดูแลรักษาต้นส้มอันนายผันจำเลยมีผล ประโยชน์ร่วมอยู่ด้วย ทางพิจารณาไม่ได้ความชัดว่าา การอยู่อาศัยกับการปลูกและดูแลรักษาต้นส้มนั้นแยกขาดจากกัน ดังนี้ จะชี้ขาดว่าพฤติการณ์ตอนหลังนี้ เป็นเรื่องอาศัยไม่ถนัด โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัยแต่ข้อเท็จจริงในขณะเกิดฟ้อง ร้องกัน ฟังไม่ได้ดังฟ้อง ก็ต้องยกฟ้อง จึงพิพากษากลับไม่ยกฟ้อง.

Share