คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องข้อแรกว่าเมื่อพ. นำใบถอนเงินมาขอถอนเงินแทนผู้ฝากจำเลยที่1ที่2และที่2ได้ลงนามอนุมัติให้ถอนเงินหลายครั้งหลายหนในเอกสารใบถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อผู้ถอนเงินหรือผู้มอบฉันทะแล้วแต่กรณีในใบถอนเงินว่าเหมือนหรือคล้ายกับตัวอย่างลายมือชื่อผู้ฝากในบัตรคู่บัญชีหรือไม่หากมีการตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เหมือนหรือไม่คล้ายกันก็ยังอนุมัติให้ถอนเงินและอีกข้อบรรยายว่าจำเลยที่4ถึงที่9ละเลยการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่บรรยายไว้ในข้อแรกทุกประการหลายครั้งหลายหนโดยไม่ได้บรรยายว่าใบถอนเงินที่จำเลยทั้งจำเลยทั้งเก้าตรวจสอบแล้วเห็นว่าลายมือชื่อไม่เหมือนก็ยังอนุมัติให้ถอนเงินนั้นเป็นเงินในบัญชีของผู้ฝากรายใดถอนเงินไปจำนวนเท่าใดเมื่อวันเดือนปีใดจึงเป็นคำฟ้องที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งโจทก์ไม่ได้แนบบัญชีผู้ฝากเงินดังกล่าวมาท้ายฟ้องเพื่อที่จะให้จำเลยเข้าใจและให้การต่อสู้คดีได้ถูกต้องฟ้องโจทก์ย่อมขาดสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172เป็นฟ้องเคลือบคลุมและเมื่อโจทก์มีคำขอให้จำเลยที่3ที4ที่6และที่8รับผิดต่อโจทก์ร่วมกันหรือแทนกันกับจำเลยอื่นอันเป็นการชำระหนี้ซึ่งไม่อาจแบ่งแยกได้แล้วแม้จำเลยที่3ที่4ที่6และที่8ไม่ได้ยกปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมขึ้นให้การต่อสู้ไว้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องในประเด็นดังกล่าวไปถึงจำเลยที่3ที่4ที่6และที่8ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นผู้จัดการ ส่วนจำเลยที่ 4 ถึงที่ 9 เป็นพนักงานบัญชีและพนักงานการเงินของธนาคารโจทก์ต่างละเลยในการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้พนักงานของโจทก์ทุจริตเบียดบังเงินของลูกค้าโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งเก้าร่วมกันใช้เงินที่ถูกเบียดบังไปพร้อมดอกเบี้ยคืนแก่โจทก์
จำเลยทั้งหมดยกเว้นจำเลยที่ 6 ให้การในทำนองเดียวกันว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขาดอายุความ และความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 6 ขาดนัดและขาดนัดพิจารณา
ศาลแรงงานกลาง พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์ ต่อ ศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์มีว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว คำฟ้องของโจทก์มีใจความว่า ข้อ 5 เมื่อนางเพียงจิตปัญญานวล นำใบถอนเงินมาขอถอนเงินแทนผู้ฝาก จำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 3 ได้ลงยามอนุมัติให้ถอนเงินหลายครั้งหลายหนในเอกสารใบถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อผู้ถอนเงินหรือผู้มอบฉันทะแล้วแต่กรณีในเอกสารใบถอนเงินว่าเหมือนหรือคล้ายกับตัวอย่างลายมือชื่อผู้ฝากในบัตรคู่บัญชีหรือไม่ และหากมีการตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เหมือนหรือไม่คล้ายกันก็ยังอนุมัติให้ถอนเงิน และข้อ 6 ระบุว่า จำเลยที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9ละเลยการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่บรรยายมาในฟ้องข้อ 5 ทุกประการหลายครั้งหลายหน เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าใบถอนเงินที่จำเลยทั้งเก้าอนุมัติให้ถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบและใบถอนเงินที่จำเลยทั้งเก้าตรวจสอบแล้วเห็นว่าลายมือชื่อไม่เหมือนก็ยังอนุมัติให้ถอนเงินนั้นเป็นเงินในบัญชีของผู้ฝากรายใด ถอนเงินไปจำนวนเท่าใด เมื่อวัน เดือน ปีใด จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาอีกทั้งโจทก์ก็ไม่ได้แนบบัญชีผู้ฝากเงินดังกล่าวมาท้ายฟ้องเพื่อที่จะให้จำเลยเข้าใจและให้การต่อสู้คดีได้ถูกต้องฟ้องของโจทก์จึงขาดสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 เป็นฟ้องเคลือบคลุม ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งเก้าในข้อหากระทำผิดสัญญาจ้างแรงงาน มิได้ตั้งประเด็นฟ้องว่าโจทก์ทั้งเก้ากระทำละเมิดต่อโจทก์จึงมิต้องบรรยายรายละเอียดดังกล่าวนั้น เห็นว่า แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งเก้าในข้อหากระทำผิดสัญญาจ้างแรงงานจริงตามที่โจทก์อุทธรณ์ โจทก์ก็ต้องบรรยายฟ้องให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ รวมทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172วรรคสอง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ได้ส่งเอกสารเพื่อให้จำเลยตรวจแล้ว เอกสารดังกล่าวจึงรวมเป็นคำฟ้องของโจทก์ เห็นว่า โจทก์มิได้ยื่นเอกสารแนบท้ายคำฟ้อง จึงถือไม่ได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้องของโจทก์ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยมิได้เสียเปรียบและหลงต่อสู้คดีขึ้นนั้นปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ให้การว่า ไม่ทราบว่าหนี้ที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 ชำระเป็นหนี้อะไร ตั้งแต่เมื่อไร จำเลยที่ 2 ก็ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่ทราบว่าที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 อนุมัติให้ถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อผู้ถอนเงินให้ถูกต้องเป็นบัญชีเลขที่เท่าใด จำนวนเงินเท่าใด จำเลยที่ 2 ไม่เข้าใจคำฟ้องทำให้หลงประเด็นในการต่อสู้ จำเลยที่ 5 ก็ให้การว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า การกระทำละเมิดของจำเลยแต่ละคนกระทำอย่างไรลงลายมือชื่อในเอกสารเกี่ยวข้องอะไรบ้าง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์วันเวลาเดือนปีใด จำเลยที่ 5 ไม่อาจเข้าใจและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง จำเลยที่ 7 และที่ 9 ก็ให้การว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่าจำเลยที่ 7 และที่ 9 ลงลายมือในเอกสารอะไร ชนิดใดเมื่อวันเวลาใด ที่จำเลยที่ 7 และที่ 9 จะต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใดโจทก์ไม่ได้แนบสำเนาเอกสารต่าง ๆ มาท้ายฟ้องทำให้จำเลยไม่เข้าใจและไม่อาจต่อสู้คดีได้ถุกต้อง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางไม่มีอำนาจยกฟ้องถึงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 เพราะจำเลยดังกล่าวมิได้ยกข้อต่อสู้เรื่องฟ้องเคลือบคลุมไว้นั้น เห็นว่าโจทก์มีคำขอให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 รับผิดต่อโจทก์ร่วมกันหรือแทนกันกับจำเลยอื่นจึงเป็นการชำระหนี้ซึ่งไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 จะมิได้ยกปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมขึ้นต่อสู้ ศาลย่อมอำนาจพิพากษายกฟ้องในประเด็นดังกล่าวไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 ได้ด้วยศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share