คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์สั่งซื้อสินค้าลูกกอล์ฟจากบริษัท บ. โดยผ่านทางตัวแทนซื้อคือบริษัท น. โจทก์กับบริษัท น. และบริษัท ก. มีความสัมพันธ์ในการถือหุ้น โดยบริษัท น. เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทโจทก์และบริษัท ก. แต่บริษัทดังกล่าวข้างต้นไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัท บ. ผู้ขายสินค้าลูกกอล์ฟให้แก่โจทก์ ดังนั้นการจ่ายค่าสิทธิของโจทก์ให้แก่บริษัท ก. จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าลูกกอล์ฟของบริษัท บ. มูลค่าที่แท้จริงของสินค้าลูกกอล์ฟที่โจทก์นำเข้าจากบริษัท บ. เป็นราคาศุลกากรหรือราคาแห่งของสำหรับสินค้าลูกกอล์ฟนั้น ณ จุดที่เกิดความรับผิดในการเสียอากรขาเข้าตามกฎหมายศุลากากรแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินอากรขาเข้าตามหนังสือแบบแจ้งการประเมินอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีวางประกัน) เลขที่ กค.0606(6)/9-2-0040218/11/45 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เลขที่ กอ.4/1547/ป2(5.4) ลงวันที่ 31 มกราคม 2548 ให้จำเลยคืนเงินค่าอากรจำนวน 577 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน นับแต่วันที่ 22 มกราคม 2546 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินอากรขาเข้าของจำเลยตามหนังสือแจ้งการประเมินอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีวางประกัน) เลขที่ กค.0606(6)/9-2-0040218/11/45 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เลขที่ กอ.4/1547/ป2(5.4) ลงวันที่ 31 มกราคม 2548 ให้จำเลยคืนค่าอากรจำนวน 577 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน นับแต่วันที่ 22 มกราคม 2546 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า โจทก์ต้องนำค่าสิทธิเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าที่จ่ายให้แก่บริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มารวมในการสำแดงราคาศุลกากรในการนำเข้าสินค้าลูกกอล์ฟที่พิพาทหรือไม่ เห็นว่า ค่าสิทธิและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับของที่นำเข้าไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมอันเป็นเงื่อนไขในการขายของนั้น ต้องเป็นการปรับราคาเพื่อหามูลค่าที่แท้จริงที่ผู้ผลิตหรือผู้ขายได้รับจากการขายของเพื่อส่งมายังประเทศไทย สำหรับราคาสินค้าลูกกอล์ฟที่บริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ ได้รับจากโจทก์เป็นราคาซื้อขายของที่นำเข้า แต่เหตุที่โจทก์ต้องจ่ายค่าสิทธิให้แก่บริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก็เพราะเหตุบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและจ่ายตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยค่าสิทธิดังกล่าวจ่ายร้อยละ 2 ของยอดขายในประเทศไทย โจทก์ต้องจ่ายให้แก่บริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หลังจากโจทก์ขายสินค้าได้แล้ว มิใช่จ่ายให้แก่บริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ ขณะนำเข้าสินค้าลูกกอล์ฟ จึงไม่มีกรณีต้องนำค่าสิทธิไปบวกเพิ่มกับราคาที่มีการชำระจริงในขณะนำเข้าให้แก่บริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ ในการกำหนดราคาศุลกากรตามที่เจ้าพนักงานของจำเลยประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์แต่อย่างใด แม้ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์สั่งซื้อสินค้าลูกกอล์ฟจากบริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ โดยผ่านทางตัวแทนซื้อคือบริษัทไนกี้ อิงค์ และโจทก์กับบริษัทไนกี้ อิงค์ และบริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีความสัมพันธ์ในการถือหุ้น โดยบริษัทไนกี้ อิงค์ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทโจทก์และบริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แต่บริษัทดังกล่าวข้างต้นไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ ผู้ขายสินค้าลูกกอล์ฟให้แก่โจทก์ ดังนั้นการจ่ายค่าสิทธิของโจทก์ให้แก่บริษัทไนกี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าลูกกอล์ฟของบริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ มูลค่าที่แท้จริงของสินค้าลูกกอล์ฟที่โจทก์นำเข้าจากบริษัทบริดจ์สโตน สปอร์ต (ยูเอสเอ) อิงค์ เป็นราคาศุลกากรหรือราคาแห่งของสำหรับสินค้าลูกกอล์ฟนั้น ณ จุดที่เกิดความรับผิดในการเสียอากรขาเข้าตามกฎหมายศุลกากร ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องนำค่าสิทธิดังกล่าวมารวมไว้ในการสำแดงราคาศุลกากรสำหรับสินค้าลูกกอล์ฟที่พิพาท นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง การที่ศาลภาษีอากรกลางกำหนดค่าทนายความให้จำเลยใช้แทนโจทก์จำนวน 3,000 บาท นั้น เกินอัตราขั้นสูงของตาราง 6 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในกรณีที่ทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความทั้งสองชั้นศาล 500 บาท

Share