คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คดีนี้จำเลยทั้งสองมิได้ขาดนัดยื่นคำให้การหรือขาดนัดพิจารณา แต่เป็นกรณีที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนัดสืบพยานจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นเห็นว่าฝ่ายจำเลยทั้งสองขอเลื่อนคดีมาหลายครั้งแล้วมีพฤติการณ์ประวิงคดี จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสองแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์ กรณีดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการพิจารณาโดยขาดนัด จำเลยทั้งสองย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินและสัญญาจำนองเป็นเงิน 12,194,866.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15.5 ต่อปี จากต้นเงิน 12,181,957.68 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระ ให้ยึดทรัพย์จำนองรวมทั้งทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งขอให้โจทก์จดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง และส่งมอบโฉนดที่ดินคืนให้แก่จำเลยที่ 2 ในวันนัดสืบพยานจำเลยทั้งสอง ทนายจำเลยทั้งสองขอเลื่อนคดีมาแล้ว 2 นัด ในนัดที่ 3 วันที่ 23 มกราคม 2544 ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีกอ้างว่าจำเลยทั้งสองไม่มาศาลโดยไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยทั้งสองมีพฤติการณ์ประวิงคดี จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสอง แล้วมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2544 ให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 10,659,894.46 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16 ต่อปี จากต้นเงิน 10,334,130.29 บาท นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2541 ถึงวันฟ้อง และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 36071 และ 36072 ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องลงวันที่ 18 มิถุนายน 2544 ขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยทั้งสองมิได้มีเจตนาที่จะไม่ไปศาลเพื่อเบิกความตามนัด เพราะวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองเดินทางไปผิดศาล และไม่สามารถติดต่อกับทนายความของจำเลยทั้งสองได้ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนี้ใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งอีก ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยทั้งสองมิได้ขาดนัดยื่นคำให้การหรือขาดนัดพิจารณา แต่เป็นกรณีที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนัดสืบพยานจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นเห็นว่าฝ่ายจำเลยทั้งสองขอเลื่อนคดีมาหลายครั้งแล้วมีพฤติการณ์ประวิงคดี จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสอง แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์ กรณีดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการพิจารณาโดยขาดนัด จำเลยทั้งสองย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share