คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9601/2553

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยขอให้โจทก์ร่วมกันไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทในส่วนแบ่งที่โจทก์จะได้รับมรดกนั้น เมื่อโจทก์มิได้เป็นผู้จำนองที่ดินพิพาทด้วย จึงไม่อาจร่วมไถ่ถอนจำนองได้ เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องดำเนินการเพื่อนำที่ดินพิพาทมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของเจ้ามรดกต่อไป โดยหากจำเลยต้องชำระหนี้จำนองที่ดินพิพาทแทนเจ้ามรดกไปเพียงใด ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวเอาจากโจทก์ตามส่วนที่โจทก์ได้รับมรดกต่างหาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านไผ่ แล้วนำมาแบ่งปัน 6 ส่วนเท่าๆ กัน โดยแบ่งให้โจทก์ 1 ส่วนหากแบ่งไม่ได้ให้นำออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งให้แก่โจทก์และทายาท หากจำเลยไม่จัดการให้ใช้เงินจำนวน 310,424.66 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 4295 ตำบลไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จากนางสาวฮวยแล้วนำมาแบ่งปันเป็นหกส่วนเท่าๆ กัน และแบ่งให้แก่โจทก์หนึ่งส่วน ถ้าแบ่งไม่ได้ให้นำที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งให้แก่โจทก์หนึ่งในหกส่วน กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1,500 บาท ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 800 บาท แทนโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์เป็นบุตรนายเนาหรือเหมากับนางพเยาว์เจ้ามรดกนายเนาและนางพเยาว์มีบุตรด้วยกัน 3 คน หลังจากนายเนาถึงแก่ความตายแล้ว นายพเยาว์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยมีบุตรด้วยกัน 2 คน นางพเยาว์ถึงแก่ความตายเมื่อปี 2538 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางพเยาว์ตามสำเนาคำสั่งเอกสารหมาย จ.3 ที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 4245 ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 214 เป็นทรัพย์มรดกของนางพเยาว์ ก่อนถึงแก่ความตายนางพเยาว์จดทะเบียนจำนองที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไว้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อมาจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยในฐานะส่วนตัว หลังจากนั้นจำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่นางสาวฮวยตามสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์เอกสารหมาย จ.4 และการจัดการมรดกของนางพเยาว์ยังไม่เสร็จสิ้น นางพเยาว์มีทายาทซึ่งมีสิทธิได้รับมรดกรวม 6 คน ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาขอให้โจทก์ร่วมไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทในส่วนแบ่งที่โจทก์จะได้รับมรดกด้วยนั้น เห็นว่า โจทก์มิได้เป็นผู้จำนองที่ดินพิพาทด้วย จึงไม่อาจร่วมไถ่ถอนจำนองได้เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องดำเนินการเพื่อนำที่ดินพิพาทมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของนางพเยาว์ต่อไป โดยหากจำเลยต้องชำระหนี้จำนองที่ดินพิพาทแทนนางพเยาว์ให้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้รับจำนองไปเพียงใด ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวเอาจากโจทก์ตามส่วนที่โจทก์ได้รับมรดกต่างหาก ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากนางสาวฮวยแล้วนำมาแบ่งปันแก่ทายาท โดยให้โจทก์ได้รับหนึ่งส่วนจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นส่วนฎีกาข้ออื่นของจำเลยไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share